"ตั้งแต่เรียนระดับประกาศนียบัตรเป็นต้นมา มีเพื่อนบางท่านอยู่ในลักษณะสักแต่ว่ามีเปลือกนอกเป็นพระเท่านั้น แต่หลังจากเรียนระดับประกาศนียบัตรจบแล้ว มาต่อปริญญาตรี จนมาต่อปริญญาโท ตอนนี้มีหลายท่านที่พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ผมเป็นอย่างทุกวันนี้ได้เพราะเลียนแบบอย่างพี่เล็กเขา"
เขามักยกตัวอย่างในห้องว่า "ถ้าบรรดาพระเถระทำอย่างพระครูธรรมธรเล็กได้ทุกคน เชื่อมั่นว่าศาสนาของเราจะเจริญและเป็นที่พึ่งให้กับชาวบ้านได้มากกว่านี้" สิ่งที่เราทำนั้นเกิดจากน้ำใสใจจริง ก็คือ เราทำด้วยความเคยชินว่า หลวงพ่อสอนเรามาอย่างนี้ เราก็ทำของเราอย่างนี้ จริงจังในทุกเรื่อง เรื่องใดก็ตามถ้าหากว่าเราทำจริง สิ่งนั้นก็จะประสบความสำเร็จทั้งนั้น
ในเมื่อเราทำอย่างนี้มาปีหนึ่งก็แล้ว สองปีก็แล้ว สามปีก็แล้ว ในที่สุดคนที่เขาเห็นและเขาเคยอยากทำมาก่อน แต่ไม่กล้าทำ เพราะกลัวว่าตัวเองจะแปลกแยกจากสังคม เขาก็เริ่มกล้าที่จะทำและคล้อยตามมา ปัจจุบันนี้อาตมาจึงเป็นเจ้าพ่ออยู่ในห้องเรียน บอกซ้ายหันขวาหันอย่างไรเพื่อนก็ตามกันหมด
สมัยอยู่วัดท่าซุงก็เหมือนกัน ตอนนั้นมีพระอยู่กับหลวงพ่อ ๔๐ กว่ารูป จะมีพวกที่แบกกฎระเบียบจนหลังแอ่นอยู่ ๔ - ๕ รูปเท่านั้น ซึ่งอาตมาก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น และที่แน่ที่สุด ก็คือ กล้าทุ่มเทรับใช้หลวงพ่อชนิดที่ไม่กลัวโดนไล่ออกจากวัด งานอะไรที่พ่อสั่ง ทำด้วยชีวิต ถ้าทำไม่สำเร็จให้มันตายไปเลย..!
เมื่อทำไปทำมา บรรดาพระพี่พระน้องก็เห็นด้วย จาก ๔๐ กว่ารูปที่ว่า ถ้าอาตมาเรียกซ้ายหันขวาหัน ขอยืนยันว่าหันมาเกิน ๓๐ รูป ทำให้อาตมาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถที่จะอยู่ในวัดต่อไปได้ "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 15-02-2016 เมื่อ 17:42
|