ตอนไปบ้านอนุสาวรีย์ เถรีพกหนังสือเพชรพระอุมาไปอ่านด้วย พออ่านจบไปหนึ่งเล่ม พระอาจารย์ถามว่า "ได้อะไรจากมันตรัยบ้าง?
เราต้องดูไปจุดที่ว่า มันตรัยพยายามทุกอย่างที่จะรักษาคัมภีร์มายาวิน เพราะว่าคัมภีร์นั้นเป็นศูนย์รวมของทุกอย่างที่เขาเสริมสร้างเอาไว้ สูญเสียเมื่อไหร่ก็แปลว่าพังทลาย
ทำอย่างไรเราจะรักษาสภาพจิตใจของเราไม่ให้สูญเสียไปเพราะรัก โลภ โกรธ หลงได้ เพราะถ้าเสียเมื่อไหร่ทุกอย่างก็พังหมด
แม้ว่ามันตรัยมันจะเป็นตัวโกงในสายตาของเรา แต่เขาบอกว่าให้ดูเยี่ยงกา แต่อย่าเอาอย่างกา ดูหนังดูละครให้ย้อนดูตัว คิดให้เป็น ถ้าหากว่าปราศจากจินตนาการ คราวนี้ความดีมันเข้ายาก แต่ว่าจินตนาการให้มันพอเหมาะพอดี ถ้าจินตนาการเตลิด กู่ไม่กลับ ออกทะเลได้อย่างเดียว ไปลิบ ๆ เลย
มันตรัยจะเก่งอย่างนั้นได้ เพราะผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก เราเองถ้าอยากเก่งก็ต้องแบบเดียวกัน ทุ่มเทให้กับการฝึกฝนทุกอย่าง อย่าลืมว่าเขาแยกจิตได้ใช่ไหม? รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นกับร่างนี้ก็ทิ้งมันก่อน ไปอยู่อีกร่างหนึ่ง ลักษณะสภาพจิตของเราก็เหมือนกัน รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นจากรัก โลภ โกรธ หลง ก็รีบเผ่นไปหาพระ เลียนแบบได้ แต่ไม่ใช่ทำอย่างเขา"
ถาม : แล้วแหม่มมาเรียละคะ?
ตอบ : ตั้งแต่เล่มแรก ๆ จนกระทั่งเล่มท้าย ๆ เราจะเห็นความมุ่งมั่นของแหม่มมาเรีย เขามุ่งมั่นว่าจะปล้ำรพินทร์ให้ได้ ตรงจุดนี้แหละ เราเอาความมุ่งมั่นของเขามาใช้ กรรมฐานกองใดที่เราจะทำ เราต้องทำให้ได้ เหมือนอย่างที่มาเรียเขาตั้งใจจะปล้ำรพินทร์ให้ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-03-2011 เมื่อ 15:57
|