ได้กราบเรียนถามครูบาอาจารย์ว่า "การปล่อยสัตว์เป็นการต่อชีวิตไม่ใช่หรือครับ ? กระผม/อาตมภาพเอง ไม่ได้ต้องการที่จะอายุยืน เพราะว่าอยู่วันหนึ่งก็ทุกข์วันหนึ่ง อยู่วันหนึ่งก็ลำบากในการดูแลร่างกายนี้วัอีกนหนึ่ง"
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเมตตาตอบว่า "แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด การปล่อยชีวิตสัตว์จะเป็นการต่ออายุ ก็ต่อเมื่อมีอุปฆาตกรรม คือกรรมที่เราฆ่าคน หรือฆ่าสัตว์ใหญ่เข้ามาสนองในตอนนั้นพอดี ก็จะทำให้เราพ้นวาระกรรมนี้ไปได้ แล้วอายุยืนไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าแกปล่อยชีวิตสัตว์ให้เขารอดตาย ให้เขาได้ไปพบกับครอบครัว ได้รับความสุข ความสบาย ต่อไปถ้าแกทำอะไรก็จะมีความสะดวก มีความคล่องตัวไปด้วย"
กระผม/อาตมภาพก็ได้ปล่อยชีวิตสัตว์มาตลอด ๓๖ ปี ปีนี้ขึ้นปีที่ ๓๗ แล้ว ขอยืนยันว่ากระผม/อาตมภาพเอง เป็นบุคคลที่เพื่อนสหธรรมิกทั้งหลายอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ง่าย ไม่ว่าจะทำอะไรก็สะดวก โดยเฉพาะมีญาติพี่น้องก็ดี มีเพื่อนฝูงสหธรรมิกก็ตาม หรือว่ามีญาติโยมทั้งหลายคอยสนับสนุนอยู่ตลอดมา
แม้กระทั่งการปล่อยปลา ซึ่งแรก ๆ ก็อยู่ในหลักไม่กี่ร้อยบาท ปัจจุบันนี้การปล่อยปลาปล่อยสัตว์ต่าง ๆ อยู่ในหลักเดือนละแสนกว่าบาท..! ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าเราต้องทำอย่างสม่ำเสมอด้วย
โดยปกติแล้ว เรื่องการกระทำต่าง ๆ ที่เรียกง่าย ๆ ว่ากรรมนั้น ถ้าหากว่าเราทำในอดีตก็จะส่งผลในปัจจุบัน คราวนี้การที่เราทำในอดีต ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นชาติก่อน หากแต่ว่าเป็นอดีตในชาตินี้ก็ได้ เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายต้องทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2022 เมื่อ 02:38
|