ดูแบบคำตอบเดียว
  #50  
เก่า 11-08-2016, 12:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “วัดไร่แตงทองของหลวงปู่หลิว ตอนนี้ท่านอาจารย์สายชลกำลังซื้อที่รอบวัด ชาวบ้านเล่นขึ้นราคาแพงหูดับไปเลย จากไร่ละไม่กี่หมื่นบาท พอท่านอาจารย์สายชลไปซื้อ เขาเอาไร่ละสามแสนบาท ส่วนที่วัดท่าขนุน ราคาประเมินไร่ละสองแสนบาท เขาขายให้อาตมาไร่ละหนึ่งล้าน ฟังแล้วชื่นใจ

เนื้อที่ที่อยู่ระหว่างศาลานวราชบพิตรของวัดท่าซุงกับจุฬามณีที่แหว่งอยู่ ตอนนั้นราคาไร่ละสามหมื่นบาท เขาขายให้หลวงพ่อไร่ละสองแสนบาท หลวงพ่อท่านก็เลยปล่อยทิ้ง ดูว่าเขาจะไปขายใครได้ ไม่อย่างนั้นท่านก็ซื้อหมดไปแล้ว นอกจากไม่คิดจะทำบุญทำกุศลแล้ว ยังโก่งราคาอีกต่างหาก

ส่วนใหญ่แล้วคนรอบวัดก็เป็นอย่างนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร คือถ้าเขามีจิตศรัทธาถวายมา อานิสงส์ก็คงไม่ต้องนับกัน แต่ส่วนใหญ่จะโก่งราคามากกว่า เพราะว่าต้นตำรับโก่งราคามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว

จำเจ้าเชตกุมารได้ไหม ? ที่ขายที่สวนเชตวันให้อนาถปิณฑิกเศรษฐี บอกว่าจะขายก็ได้ แต่ต้องเอาเงินมาปูให้เต็ม พูดง่าย ๆ ว่าที่จะเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดไหน เอาเงินเกลี่ยให้ที่เสมอกันได้ก็เอาไปได้เลย คิดราคาแค่นั้นแหละ คิดว่าอนาถปิณฑิกเศรษฐีจะถอย ที่ไหนได้...ท่านไม่ถอยนะสิ สั่งเปิดคลังขนเงินใส่เกวียนมาเลย ปูเอาให้เรียบไปเลย ถมไปถมมาถึงหน้าประตูเหลืออยู่ไม่ถึงวา เจ้าเชตกุมารบอกว่าเอาแค่นี้แหละ พอแล้ว

ท่านก็ยังอุตส่าห์เมตตานะ ให้ที่แค่หน้าประตูก็ยังสร้างซุ้มประตูให้ ติดชื่อว่าพระเชตวันมหาวิหาร ที่ทั้งหมดตัวเองเอาเงินไปถมแท้ ๆ ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐีไม่ยักใช้ชื่อตัวเอง ในเมื่อมีต้นตำรับโก่งราคามาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว ที่รอบ ๆ วัดก็ไม่ต้องห่วงหรอก เขาต้องโก่งราคาอยู่แล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2016 เมื่อ 14:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา