ดังนั้น..ในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราเห็นว่าไม่สำคัญนั้น จริง ๆ แล้วสำคัญทุกเรื่อง อยู่ที่ว่าเราทำเป็นหรือไม่เป็นเท่านั้น ท่านที่ถามปัญหาในวันนี้ว่า เมื่อปฏิบัติไปแล้ว ถึงจุดหนึ่งเหมือนกับตัน แล้วจะทำต่ออย่างไร ?
ก็ขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนอิริยาบถ ไม่ว่าเปลี่ยนจากนั่งไปเดินจงกรมก็ดี หรือว่าใช้การนอนภาวนาแทนก็ดี หรือว่าจะให้ปลอดภัยที่สุด ก็ทำอย่างที่อาตมาบอกไป ก็คือการเปลี่ยนไปทำความสะอาด ทำงานทำการเฉพาะหน้าของเรา แล้วรักษาสติไว้เฉพาะหน้า ระลึกรู้อยู่เสมอว่า สิ่งที่เราทำอยู่นี้ เราทำเพื่อพระนิพพาน
ตัวเราที่ทำหน้าที่อยู่ ก็ก้าวเข้าไปหาความตายอยู่ตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายที่มีความทุกข์เช่นนี้ การเกิดมามีร่างกายที่ไม่เที่ยงเช่นนี้ เราขอมีเพียงชาตินี้ชาติเดียว ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานที่เดียว ก็แปลว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านกระทำนั้น ท่านกระทำเพื่อพระนิพพานนั่นเอง
ดังนั้น..ถ้าใครเกิดปัญหาลักษณะนี้ ก็สามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ในการแก้ไข เพื่อให้ตนเองสามารถที่จะปฏิบัติธรรมต่อไปได้ โดยที่ไม่ไปถึงจุดตันที่ก้าวต่อไม่ได้อย่างญาติโยมที่ถามมา
ลำดับถัดจากนี้ไป ก็ขอให้ทุกคนกำหนดความรู้สึกของตนไว้ที่ลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้า พร้อมกับคำภาวนาที่ตนชอบใจตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-02-2011 เมื่อ 11:41
|