ในเรื่องของขันติบารมีนั้น พระองค์ท่าน อดทน อดกลั้น อดออม ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทนต่อความเหนื่อยยากพระวรกาย ทนต่อแรงกระทบต่าง ๆ ทนต่อความว่ายากสอนยากของประชาชนโดยเฉพาะราชการ ถ้าไม่มีความอดทนอดกลั้นตรงจุดนี้ พระองค์ท่านมีสิทธิ์ที่จะลงโทษเขาได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่มีเลย อย่างดีก็ตำหนิด้วยวาจา แล้วเป็นการตำหนิที่บางทีคนโดนตำหนิก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองโดน ดังนั้น...ในส่วนของขันติบารมีพระองค์ท่านมีอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์
ในด้านของสัจจบารมีนั้น แค่พระปฐมบรมราชโองการ ว่าเราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ก็แสดงออกถึงสัจจะอย่างจริงแท้แน่นอนของพระองค์ท่าน ตลอด ๗๐ ปีทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาโดยตลอด ไม่มีอะไรให้สงสัยเลย
ในด้านของอธิษฐานบารมี คือความตั้งพระทัยอย่างมั่นคงของพระองค์ท่าน สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระองค์ท่านตั้งพระทัยกระทำแล้ว ก็ทำไปจนสำเร็จ ถ้ายังไม่สำเร็จก็ยังไม่เลิก ค้นคว้าต่อไป ดังนั้นในความตั้งใจมั่นคืออธิษฐานบารมี พระองค์ท่านก็ถึงพร้อมโดยสมบูรณ์บริบูรณ์
ในเรื่องของเมตตาบารมี พระองค์ท่านนั้นยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรจะเปรียบปาน ด้วยความรักความเมตตาต่อประชากรทุกคน ประหนึ่งบุตรในอุทร ตั้งใจสงเคราะห์ทุกคนเป็นอัปปมัญญาก็คือไม่มีประมาณ เห็นทุกคนเป็นพสกนิกรที่ต้องให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ ไม่เห็นถึงความแตกต่างของเชื้อชาติศาสนาเลย นี่ก็คือเมตตากรุณาที่หาประมาณไม่ได้ ไม่เลือกที่รักมักที่ชังอย่างแท้จริง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 20:59
|