"ในบาลีบอกว่า บุคคลนั้นจะเข้าถึงมรรคผลตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป ต่อให้โลกจะโดนทำลายแล้วก็ยังทำลายไม่ได้ ต้องรออยู่จนกว่าท่านจะได้มรรคผลตามวาระของท่านเสียก่อน จึงได้ชื่อฐิตะกัปปี ผู้ยังกัปให้ตั้งอยู่
พวกเราทำความดีกันแม้ว่าจะจำนวนน้อย ก็อาจจะแค่รักษาตัวเรา รักษาครอบครัว เอาแค่นี้ก็พอ...ไม่ต้องมาก ถ้ามากไปกว่านั้น ท่านที่ทรงความดีสูง ๆ ก็สามารถรักษาชุมชน จะเล็กจะใหญ่ก็แล้วแต่กำลังความดีของท่าน
เราจะเห็นว่าระยะนี้หลวงปู่หลวงพ่อที่ทรงคุณความดี โดยเฉพาะอายุมากเป็นร้อยปี มรณภาพกันหลายรูปหลายองค์ แม้ว่าจะเป็นการมรณภาพ เท่ากับสูญเสียบุคคลที่ทรงคุณความดีไป แต่ก็แลกกับภัยพิบัติ ซึ่งจะรุนแรงมากก็กลายเป็นเบาบางลง
ทางบ้านของอาตมาเองคือจังหวัดนครปฐม ก็เพิ่งจะเสียพระเถระที่อายุกาลพรรษามาก คือ หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม อายุ ๑๐๒ ปี ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เต๋ วัดสามง่าม หลวงปู่เต๋สมัยก่อนโด่งดังมาก สิ่งที่พวกอาตมาอยากได้สมัยนั้นก็มีตะกรุดของหลวงปู่เต๋ บรรดาพ่อค้าแม่ขายก็อยากได้ตุ๊กตาทองของท่าน ตอนหลังตุ๊กตาทองของท่านเขาเรียกกันว่ากุมารทอง หลวงปู่เต๋เป็นสำนักแรก ๆ เลยที่สร้างกุมารทอง
ท่านทำตะกรุดแล้วดังขนาดไหนบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าถ้าหาวัสดุสร้างตะกรุดไม่ได้ ต้องเอาถุงปูน ปูนก่อสร้าง..ปูนซิเมนต์นั่นแหละ มาทำความสะอาด เขียนยันต์เสร็จแล้วก็ม้วน ถักเชือกให้ลูกศิษย์แทน เพราะว่าหาโลหะไม่ทัน นาน ๆ จะมีตะกรุดถุงปูนหลุดออกมาสักที เราต้องคิดว่าบุคคลที่สร้างวัตถุมงคล ลูกศิษย์ไปขอจนกระทั่งสร้างไม่ทันนั้น ท่านจะเป็นที่เคารพนับถือขนาดไหน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2017 เมื่อ 20:43
|