เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกไว้ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าเผลอสติไปคิดเรื่องอื่น รู้ตัวขึ้นมาเมื่อไรก็ให้ดึงความรู้สึกกลับมาที่ลมหายใจเข้าออกเสียใหม่ ส่วนคำภาวนาจะใช้อะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ เมื่อครู่นี่มีคนถามเรื่องความทุกข์ ว่าหนีอย่างไรก็ไม่พ้น เหตุที่หนีไม่พ้นเพราะว่าความทุกข์อยู่กับร่างกายของเรา การที่เราจะหนีให้พ้นความทุกข์ได้นั้น จะต้องพินิจพิจารณาให้เห็นชัดเจนที่สุดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา การที่จะพิจารณาให้เห็นชัดเจนขนาดนั้นได้ ก็ควรที่จะแยกแยะสภาพร่างกายของเราออกมาให้ละเอียด อย่างเช่นว่าแยกออกเป็นธาตุ ๔ คือดิน คือน้ำ คือลม คือไฟ
ส่วนที่แข็ง เป็นแท่งเป็นก้อน เป็นชิ้นเป็นอัน จับได้ต้องได้ เรียกว่าธาตุดิน ประกอบด้วยผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ กระดูก เยื่อในกระดูก อวัยวะภายใน ได้แก่ ตับ ไต ไส้ ปอด ม้าม หัวใจ กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ หรืออวัยวะภายนอก เช่นมือ เท้า เป็นต้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จัดเป็นธาตุดิน แยกเอาไว้ส่วนหนึ่ง
ส่วนที่ ๒ คือส่วนที่เอิบอาบอยู่ในร่างกายของเรา เรียกว่าธาตุน้ำ เป็นต้นว่า เลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำตา น้ำลาย น้ำดี ไขมันเหลว ปัสสาวะ แยกเอาไว้อีกส่วนหนึ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2015 เมื่อ 02:47
|