ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-01-2024, 23:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,596
ได้ให้อนุโมทนา: 151,775
ได้รับอนุโมทนา 4,412,056 ครั้ง ใน 34,186 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าพวกเราทั้งหลายในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่แล้วขาดการตัดสินใจตรงนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่า อันดับแรกก็คือ กุศลที่เราสั่งสมมาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราบรรลุธรรมอย่างหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือ ถึงแม้ว่ากุศลและปัญญาของเราเพียงพอ แต่ว่ากำลังสมาธิไม่พอที่จะใช้ในการตัดทุกอย่างให้เด็ดขาดลงไปได้ จึงทำให้เราไม่สามารถที่จะบรรลุธรรมได้

ในปัจจุบันของเรานี้ วันพระซึ่งเป็นวันที่เราเรียกกันแบบง่าย ๆ นั้น ในสมัยก่อนเรียกกันว่าวันธรรมสวนะ คือวันแห่งการฟังธรรม เมื่อมากล่าวถึงตรงนี้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเคยผ่านไปทางด้านศาลายา จังหวัดนครปฐม จะมีสถานที่อยู่สองแห่ง แห่งแรกก็คือศาลายา แห่งต่อไปคือศาลาธรรมสพน์ คำว่าธรรมสพน์ตัวนี้ก็คือธรรมะ แล้วก็สพน์ก็คือสวนะ ซึ่งเปลี่ยน ว.แหวน เป็น พ.พาน

ความจริงคำว่า ศาลาธรรมสพน์ นั้น มาจากการ "ทำศพ" คือจัดการกับซากสังขารที่ตายลงไปจริง ๆ เนื่องเพราะว่าการรักษานั้น เขาจะรักษากันที่ "ศาลายา" ถ้ารักษาแล้วไม่รอด ก็เอาไปจัดการที่ "ศาลาทำศพ" แต่คนโบราณเกรงว่าคำว่าศาลาทำศพ จะทำให้คนฟังเกิดความรู้สึกไม่ดี เมื่อมาในระยะหลัง จึงเปลี่ยนเป็นคำว่าศาลาธรรมสพน์ ก็คือธรรมสวนะ ศาลาฟังธรรมแทน

คราวนี้ย้อนกลับมาถึงขณะในการบรรลุธรรม ตามในวิมุตตายตนสูตร ท่านบอกว่าขณะที่สองก็คือ บรรลุได้ในขณะกำลังแสดงธรรม อย่างเช่นกระผม/อาตมภาพกำลังบรรยายอยู่ในขณะนี้ เรียกว่า
เมื่อสอนคนอื่นแล้ว ก็สอนตนเองไปพร้อมกันด้วย เมื่อสอนผู้อื่นไปแล้ว เห็นว่าสามารถทำตรงไหนได้ ก็ตัดสินใจเด็ดขาดลงไปเดี๋ยวนั้นเลย ว่า "เราจะทำแบบนั้นด้วย" ก็สามารถทำให้บรรลุธรรมได้ ในขณะที่กำลังแสดงธรรมแก่ผู้อื่นอยู่

ขณะที่สามก็คือ บรรลุในขณะสาธยายธรรม คำว่าสาธยายในที่นี้ก็คือสวด ท่อง เพื่อที่จะได้จดจำเอาไว้ให้คล่องปาก คล่องใจ ถึงเวลาแล้วจะได้นำขึ้นมาพินิจพิจารณาใหม่ แต่บังเอิญว่าในขณะที่สวดสาธยายไป เราเข้าใจความหมายว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ก็ตัดสินใจไปตามนั้นว่า เราจะปฏิบัติตามนั้นทันที ทำให้สามารถที่จะบรรลุธรรมได้เช่นกันจึง

ขณะที่สี่ก็คือบรรลุในขณะพิจารณาธรรม ก็คือยกเอาข้อธรรมคำสอนนั้นขึ้นมาพินิจพิจารณาใหม่ ตอนที่ฟังอยู่อาจจะยังไม่ชัดเจน ตอนที่สวดสาธยายก็ยังเข้าใจไม่แจ่มแจ้ง จึงต้องนำมาขบคิด จนกระทั่งเกิดความกระจ่างขึ้นกลางใจ ถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่น เขาเรียกว่า "ซาโตริ" ก็คือบรรลุฉับพลันในขณะนั้น เนื่องเพราะว่าเมื่อพิจารณาเห็นแจ้งแล้ว ตัดสินใจยอมรับ ปฏิบัติตามนั้น ทำให้สามารถที่จะบรรลุธรรมได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2024 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา