ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 19-12-2023, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,898 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ถ้าหากว่าเรานั่งกรรมฐานแล้ว ถึงเวลาลุกขึ้นอย่าทิ้งหมด อย่างน้อย ๆ ก็ต้องรักษาอารมณ์ใจนั้นให้อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แรก ๆ อย่างเก่งได้ ๑-๒ นาทีก็พังแล้ว เพราะไม่เคยชิน พอนาน ๆ ไปเราก็จะรักษาเวลาได้มากขึ้น ๓ นาที ๔ นาที ๕ นาที ๑๐ นาที ๑๕ นาที ๒๐ นาที ครึ่งชั่วโมง โอ้โห..เก่งสุด ๆ ..(หัวเราะ)..แล้วก็ไหลตามน้ำไป แต่เราได้กำไรมาครึ่งชั่วโมง ก็แปลว่าระยะทางที่ควรได้เพิ่มมาหน่อยหนึ่ง

มาพรุ่งนี้เราว่ายยาวเท่าเดิม ต่อให้ไหลกลับมาก็ยังได้ระยะนั้นอยู่ ถ้าเราไม่ปล่อยทีเดียว รักษาต่อ ก็ยังได้เพิ่มอีกหน่อยหนึ่ง ถ้าทำแบบนี้ถึงจะมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติขึ้นมาได้ ไม่ใช่พอลุกแล้วก็ไม่เอาอะไรเลย "โอ๊ย ดีใจแทบตาย เลิกสักที เมื่อยจะแย่อยู่แล้ว" แล้วจะมาทำทำไมวะ..?!

เพราะฉะนั้น..จะสังเกตว่าอย่างในช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพบอกกับพวกเราว่า "กำหนดกำลังใจให้แน่วนิ่งอยู่จุดใดจุดหนึ่งก่อนแล้วค่อยขยับ" ไม่อย่างนั้นแล้วสมาธิหลุดตั้งแต่ตรงนั้นแหละ เนื่องเพราะว่า..เราคลายสมาธิออกมาทีเดียว

บางคนคลายเร็วเกินไป หัวใจเต้นระทึก เพราะว่าร่างกายต้องรีบปรับสภาพคืนสู่ในระดับที่เราจะใช้งาน คราวนี้เราคลายออกมาเร็วร่างกายก็ต้องรีบปรับ บางคนหัวใจเต้น ๒๐๐ ครั้ง/นาทีก็มี เพื่อที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายให้ทันกับที่เราจะใช้งาน แล้วก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ ๆ เราก็เหนื่อยกะทันหัน ? นั่นเพราะเราทำตัวเราเอง ให้ค่อย ๆ คลายสมาธิออกมาจะไม่มีปัญหา

ที่ว่ามาทั้งหมดน่ะอาตมาทำมาเองแล้วทั้งนั้น พอทำมาเองแล้วรู้ตัว โอ้โห..โง่อยู่ตั้งนาน..! ว่าแล้วก็เปลี่ยนใหม่

การปฏิบัติธรรมจึงต้องมีการทบทวนอยู่เสมอ ๆ จำได้ไหมว่าพระพุทธเจ้าท่านให้เราทบทวนก่อน ไม่เคยได้ยินใช่ไหม ? ที่ไม่เคยได้ยินเพราะพระพุทธเจ้าท่านบอกเป็นภาษาของท่าน เราไม่สามารถที่จะมาทำเป็นภาษาของเรา ท่านบอกว่า อิทธิบาทเป็นเครื่องนำเราไปสู่ความสำเร็จ ประกอบไปด้วย
๑. ฉันทะ พอใจ เต็มใจ อยากที่จะทำอย่างนั้น
๒. วิริยะ พากเพียรทำไปเต็มกำลังของตน ไม่ใช่ออมแรงไว้ครึ่งหนึ่ง
๓. จิตตะ กำลังใจจดจ่อปักมั่น ไม่สำเร็จไม่เลิกเด็ดขาด
๔. วิมังสา ไตร่ตรองทบทวนไว้เสมอ ๆ

แล้วทบทวนอะไร ? ทบทวนว่าเราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ทำไปถึงไหน ? ยังห่างไกลต่อเป้าหมายเท่าไร ? ยังตรงต่อเป้าหมายที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ? ยังต้องทำอีกมากน้อยเท่าไรถึงจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ ?

แล้วทำไมคนอื่นเขาไม่แปลอิทธิบาทให้ฟังอย่างนี้ ?..ก็เพราะทำไม่ถึง ในเมื่อทำไม่ถึงก็แปลไม่ถึงเหมือนกัน เรื่องของบาลีจะแปลถึงเท่าไรก็คือทำได้เท่านั้น ส่วนที่เหลือได้แต่คิดว่า คาดว่า เดาเอาทั้งนั้น เดาถูกก็ดีไป เดาผิดก็เตลิดเปิดเปิงหลงทางไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-12-2023 เมื่อ 23:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา