ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 05-03-2024, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,629
ได้ให้อนุโมทนา: 151,867
ได้รับอนุโมทนา 4,413,842 ครั้ง ใน 34,219 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ พวกเราต้องใช้ระบบ ๕ - ๖ - ๗ คือตื่นนอนตั้งแต่ตี ๕ เวลา ๖ โมงส่งกระเป๋าให้ทางมัคคุเทศก์นำไปจัดการโหลดขึ้นรถ และ ๗ โมงออกเดินทาง

ในช่วงระหว่างที่โหลดกระเป๋านั้น พวกเราก็รับประทานอาหารเช้า ซึ่งทางห้องอาหารของทาง The Vissai Hotel นั้น ถือว่าน่ารักสุด ๆ เพราะว่าพวกเราเข้าไปตั้งแต่ยังไม่ทันจะ ๖ โมง เขาก็พยายามที่จะบริการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอาหลันนั้น ตอนนี้แปลงตัวเป็น FC วัดท่าขนุนเต็มตัวแล้ว ก็คือนอกจากนำเอาผลไม้มาถวาย ยังมีการถวายเงินทำบุญตอนเช้าเหมือนกับคนอื่น ๆ อีกด้วย

เมื่อพวกเราอิ่มเรียบร้อย ตรวจสอบกระเป๋าแล้ว ก็ออกเดินทางไปยังวัดตามจุ๊ก (Tam Chuc) ซึ่งการเดินทางนั้นไม่ไกล แต่ว่าสถานที่จอดรถแล้วไปยังสถานที่ซื้อตั๋วนั้นไกลมาก ปกติแล้วก็ต้องเดินไป แต่ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบ เจ้าหน้าที่ทางวัดส่งรถรางมารับพวกเราจนถึงลานจอดรถ วิ่งไปรออยู่ทางด้านหน้าสถานที่ซึ่งจะตรวจตั๋วตอนขาเข้า พวกเราส่วนใหญ่มาถึงก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำกัน ครั้นได้ตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามมัคคุเทศก์ของเราไป ผ่านการตรวจทีละชั้น เมื่อตรวจแล้วยังต้องเก็บตั๋วติดตัวไว้รอให้เขาตรวจอีก

เมื่อเดินออกจากอาคารหลังใหญ่แล้วก็จะเป็นสนามที่กว้างขวาง และมีต้นไม้ปลูกอยู่เป็นระยะไป ไปจนกระทั่งถึงหน้าอาคารใหญ่มหึมาหลังหนึ่ง พวกเราได้ทำการถ่ายรูปหมู่ก่อน และเพิ่งจะรู้ว่าทางคณะเติมเต็มทราเวลนั้น นำเอาโดรนมาด้วย ถ่ายรูปเสร็จสรรพเรียบร้อย พวกเราเดินเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ ปรากฏว่าไม่ได้เดินเข้าไปชมอะไร ทั้ง ๆ ที่เขาจัดสถานที่ไว้สวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะโคมไฟหลากสีเหล่านั้น แต่เป็นการให้พวกเราเดินผ่านช่องตรวจตั๋วอีก ๑ รอบ

หลังจากนั้นก็ไปขึ้นเรือ ๒ ชั้น ซึ่งงานนี้ก็ได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์ยกเรือให้พวกเราไปเลย ๑ ลำ ต้องขอบคุณท่านผู้มีจิตเมตตาอย่างมาก ๆ เพราะว่าปกติคณะทัวร์ก็มักจะโดนคณะอื่นแทรกไปด้วยเสมอ แต่คณะของเราถือว่าพิเศษ นั่งเรือผ่านทะเลสาบที่มีลมหนาว ๑๘ องศาเซลเซียสแบบสะท้านไปตลอดทาง แต่ก็สนุกเฮฮากับการถ่ายรูปหมู่บ้าง รูปเดี่ยวบ้าง

โดยเฉพาะนางสาวลัดดา ไกด์ของบัสที่สองนั้น พยายามที่จะเข้ามาทำบุญ บอกว่า "หลวงพ่ออวยพรให้หนูรวย ๆ แล้วลืมสาธุ..!" กระผม/อาตมภาพจึงบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นต้องทำบุญใหม่อีกรอบหนึ่ง..!" จึงได้สนุกสนานเฮฮากันจนไปถึงฝั่งซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมาก เพราะว่าทะเลสาบนั้นกว้างถึง ๓,๐๐๐ ไร่..!

เมื่อข้ามฝั่งไปแล้ว พวกเราถ่ายรูปหมู่หน้า "ประตูสวรรค์" จากนั้นเข้าไปภายในศาลาประตูสวรรค์ ซึ่งมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปางไสยาสน์อยู่ ด้านซ้าย - ขวามีเทพพิทักษ์องค์มหึมา มัคคุเทศก์ของเรานัดแนะวันและสถานที่นัดพบแล้ว พวกเรากราบพระเรียบร้อย และทำบุญหยอดตู้กันเสร็จ ก็เดินออกไปทางซ้ายมือของศาลาประตูสวรรค์ เดินเลาะขวาไปจนกระทั่งเห็นอาคารหลังใหญ่อยู่ทางด้านขวา อันนี้จะเป็น "ศาลาดิน" ซึ่งทางด้านของมหายานเขามีความเชื่อเกี่ยวกับ ฟ้า ดิน มนุษย์ ถ้าหากว่าสัมพันธ์กันอย่างดีเมื่อไร ก็จะเจริญรุ่งเรืองมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2024 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา