"หลังจากออกจากงานครูบาวิฑูรย์ ซึ่งอาตมาก็ทำอย่างนั้นทุกปี ก็คือไปวัดท่าซุงต่อ เพราะว่างานมักจะเป็นวันเดียวกัน พอไปวัดท่าซุงคราวนี้ก็เวรกรรมแล้ว แก่ขนานแท้เลย เพราะว่ารุ่นพี่ก็เหลือน้อยลง ๆ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงรูปปัจจุบันก็เป็นน้องตั้ง ๔ - ๕ พรรษา ก็เลยกลายเป็นว่าต่อให้ไม่สำนึกตัวว่าตัวเองแก่ ก็ยังต้องมีอะไรที่คอยเตือนสติอยู่เสมอให้รู้ว่าแก่จริง ๆ แล้ว
เพราะว่าญาติโยมหลายท่านมา อาตมาว่าเป็นคนจำคนแม่น ยังเกือบจะจำไม่ได้ โยมผู้หญิงบางคนก็ผมขาวหมดหัวแล้ว บางคนก็อ้วนจนผิดรูปผิดร่างไปเลย บางคนก็มาเดินหาอาตมา ซึ่งไม่น่าจะต้องหาเพราะว่ายังมีเค้าเก่าอยู่มาก อย่างไรอาตมาก็เปลี่ยนน้อย แต่ปรากฏว่าอาตมาจำเขาได้ทุกคน แต่บางคนมาเดินหาว่าพระอาจารย์เล็กนั่งอยู่ตรงไหน..? น่าตายมาก...! แค่ ๒๐ กว่าปีจำกันไม่ได้เสียแล้ว
คราวนี้ในส่วนที่เห็นชัดก็คือบรรดาคนรู้จักเก่า ๆ ล้มหายตายจากไปมาก ที่อยู่ก็เฒ่าชะแรแก่ชรา ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตือนตัวเองให้เร่งรัดในเรื่องของการปฏิบัติให้มากไว้ เพราะว่าสังขารร่างกายไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานเท่าไร ถ้าเรามัวแต่ประมาทอยู่ พอถึงเวลาไม่ได้ความดีอย่างที่หวัง ก็จะกลายเป็นเสียชาติเกิด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:56
|