ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 14-08-2013, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,945 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เมื่อเราค่อย ๆ สั่งสมความดีไปทีละเล็กละน้อยแบบนี้ จะบอกว่าไม่มีผลก็ไม่ใช่ ความดีที่เราสั่งสมไม่ได้ไปไหน จะสั่งสมตัวเหมือนกับน้ำทีละหยด รวมกันเดี๋ยวก็ได้เป็นโอ่งเป็นไห แต่ว่าก่อนที่เราจะได้เห็นต้นทุนของตัวเอง ความฟุ้งซ่านต่าง ๆ มักจะกินใจของเราเสียก่อน ในเมื่อความฟุ้งซ่านกินใจของเราเสียก่อน โอกาสที่ความดีจะเข้ามาก็กลายเป็นเรื่องยาก

แล้วพวกเราเองตั้งใจปฏิบัติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ถ้าสมมติเราหาของขวัญไปเพื่อถวายในหลวงหรือพระราชินี ก็แปลว่าอีหลุปุปะดูไม่ได้เลย ถ้าจะถวายของขวัญแด่พระองค์ท่าน ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ให้เป็นของขวัญที่หน้าตาดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นประเภทผักชีโรยหน้าก็ยังดี โรยไปเยอะ ๆ ก็แล้วกัน

ในการปฏิบัติของเรา ถ้าหวังความก้าวหน้า เลิกปฏิบัติไปแล้วอย่าทิ้ง ให้พยายามประคับประคองรักษาอารมณ์ของเราให้ต่อเนื่องเข้าไว้ เรามาดูว่าวันหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมง เราให้เวลากับการภาวนากี่ชั่วโมง ? ถ้าเช้าครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง อีก ๒๓ ชั่วโมงเราขาดทุนตลอด ถ้าได้เช้าชั่วโมงหนึ่ง เย็นชั่วโมงหนึ่ง ก็ขาดทุน ๒๒ ชั่วโมง เราลองนึกว่าถ้าเราว่ายน้ำทวนมา ๒ ชั่วโมง แล้วเราปล่อยไหลไป ๒๒ ชั่วโมง โอกาสที่จะได้ระยะทางที่เป็นที่พอใจจะมีหรือไม่ ? ความสำเร็จจะมีหรือไม่ ? นี่คือสิ่งที่อยากฝากไว้เป็นข้อคิดแก่พวกเรา

พระพุทธเจ้าทรงสอนในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ว่าเป็นของที่ต้องทำ ทาน...ถ้าเราเกิดชาติใหม่จะมีความร่ำรวย ศีล...เกิดใหม่จะส่งผลให้เป็นผู้มีรูปสวย มีจิตใจที่ดีงาม ภาวนา...ทำให้เราเป็นผู้มีปัญญามาก เกิดอุปสรรคทางโลกก็แก้ไขให้ลุล่วงไปได้โดยง่าย มีปัญหาทางธรรมก็สามารถที่จะพิจารณาหาทางแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยง่ายเช่นกัน

ในเรื่องของทาน ท่านเปรียบไว้ว่าทำหนึ่งได้ผลเป็นร้อย เพราะบางท่านใช้คำว่า ทานทำด้วยกายอย่างเดียวก็ได้ ในเรื่องของศีลทำหนึ่งมีผลเป็นหมื่น เพราะว่าศีลต้องควบคุมกายและวาจาให้เรียบร้อยอยู่ในกรอบ เรื่องของภาวนาทำหนึ่งได้เป็นล้าน เพราะต้องควบคุมทั้งกาย วาจา และใจโดยพร้อมเพรียงกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2013 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา