ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 30-01-2011, 07:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

งานพฤกษาสยามครั้งที่ ๔ ซึ่งมี ตั้งแต่ ๒๔ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๐ ณ ห้อง เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้โบราณที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เพื่อการอนุรักษ์ รวมทั้งการประกวดพันธุ์ไม้ ๘ ประเภท ได้แก่ บอนไซ โกสน บอนสี อโกลนีมา ลีลาวดี โป๊ยเซียน กล้วยไม้ และชวนชม ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ และเงินรางวัลรวมกว่า ๘ แสนบาท

นอกจากนี้ในงานยังมีการแสดงว่านไทยโบราณ จัดแสดงในรูป
แบบสวนว่านไทย อาทิ ว่านกระบี่ทอง ว่านทรหด ว่านทุ่งเศรษฐี ว่านนเรศวร ว่านกล่อมนางนอน ฯลฯ แต่สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของงาน คือ “รากราคะ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ว่านดอกทอง” ซึ่งเป็นว่านโบราณที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์


ต้นว่านดอกทอง

นายณรงค์ ค้านอธรรม นักอนุรักษ์ว่านไทยโบราณ เจ้าของว่านรากราคะ เผยว่า ว่านนี้อยู่ในวงศ์ซิงจิเบอร์เรซี เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิง ลักษณะลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว ๕-๑๐ นิ้ว เนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาว มีกลิ่นคาวจัดคล้ายกับอสุจิของคน
พบมากทางภาคตะวันตกและภาคเหนือ แถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ลำปาง ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็ก เส้นกลางใบสีแดง



ทั้งต้นสูงประมาณ ๑ ฟุต ออกดอกในหน้าฝน คล้ายดอกกระเจียว แต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน มีสีขาวอมเหลือง โดยแทงดอกขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดิน ก่อนการงอกของใบ
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 3.jpg (12.2 KB, 1433 views)
ชนิดของไฟล์: jpg wandoktong1.jpg (18.6 KB, 1419 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 30-01-2011 เมื่อ 07:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา