ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 16-03-2010, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,451
ได้รับอนุโมทนา 4,406,249 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุคคลที่เกิดก่อนเรา ในรุ่นของปู่ย่า ตาทวด และพ่อแม่ ลุงป้า น้าอา ตายไปมากแล้ว บุคคลที่เกิดไล่เลี่ยกับเรา จะเป็นรุ่นพี่ รุ่นเพื่อน รุ่นน้องก็ดี ก็มีตายให้เห็นแล้ว และท้ายสุดบุคคลที่เกิดหลังเรา ไม่ว่าจะเป็นลูก เป็นหลาน เป็นเหลนก็ตาม ก็มีบ้างที่ได้ตายไปแล้ว จึงกล่าวได้ว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง

เมื่อเราเห็นว่าความตายเป็นของเที่ยง ถ้ายังประมาทมัวเมาอยู่ ตายแล้วตกสู่ทุคติ ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะว่าเสียทีที่เกิดมา ดังนั้น...ขอให้ทุกท่านทบทวนในเรื่องของความตายไว้เสมอ กำหนดจิตรู้อยู่เสมอว่าจะต้องตาย อารมณ์ราคะเกิดขึ้นให้รู้เอาไว้ว่า เราจะต้องตายแน่นอน อารมณ์โทสะเกิดขึ้น ให้รู้ไว้ว่าเราจะต้องตายแน่นอน อารมณ์โมหะเกิดขึ้น ก็ให้รู้ว่าเราจะต้องตายแน่นอน ถ้ามีความรู้ตัวอยู่อย่างนี้ ราคะ โทสะ โมหะ ก็ทำอันตรายเราได้ยาก


เพราะในเมื่อเรารู้ว่าจะต้องตาย ก็เร่งขวนขวายความดีเอาไว้ ถ้าหากเรารักษาศีลก็ระงับซึ่งโทสะ ถ้าหากว่าเราเจริญภาวนาก็ระงับซึ่งโมหะ ถ้าเราเจริญในจาคานุสติหรือปฏิบัติในทานบารมีก็ระงับในซึ่งโลภะ เป็นต้น

ดังนั้น..สำหรับวันนี้แล้ว ขอให้ทุกคนทราบไว้ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ตาม เรามีความตายเป็นปกติอยู่แล้ว ในเมื่อความตายจะมาถึงเป็นปกติ การสั่งสมบุญความดีก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเร่งทำให้มากไว้

ถ้าหากว่าเรามั่นคงในทาน ศีล ภาวนา เชื่อมั่นว่าความดีนั้นคุ้มครองรักษาเราได้ เชื่อมั่นว่าคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สามารถคุ้มครองรักษาเราได้ เชื่อมั่นในอานุภาพของพรหมของเทวดา ของครูบาอาจารย์ว่าคุ้มครองเราได้ ความกลัวตายก็ลดน้อยถอยลง และในที่สุดก็จะเห็นความเป็นปกติ ว่าการเกิดมามีร่างกายนี้ต้องตายแน่นอน

ถ้าหากว่าตายแล้วเราควรจะเลือกที่หมายที่ไหน ก็ขอให้เลือกเป้าหมายที่สูงที่สุด ที่ไกลที่สุดคือพระนิพพานเอาไว้ เมื่อรู้ตัวว่าจะตาย ก็ให้ตั้งใจเอาไว้ว่าไปนิพพานแห่งเดียว เมื่อความรู้สึกว่าร่างกายนี้ต้องตายเป็นปกติ ลมหายใจเข้าออกของเรานั้น มีอยู่เป็นปกติ ก็เอาจิตของเราเกาะพระนิพพานเอาไว้ ตั้งใจว่าถ้าตายตอนนี้เราก็ขอไปอยู่ที่พระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น

ให้ทุกคนกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาตามอัธยาศัย หรือกำหนดกสิณภาพพระอย่างใดอย่างหนึ่งตามอัธยาศัย ถ้าหากว่าลมหายใจเข้าออกมีอยู่ ก็กำหนดลมไป ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก ก็กำหนดรู้ลมไว้ว่าไม่มี ถ้ามีคำภาวนาอยู่ ก็กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าไม่มีคำภาวนา ก็กำหนดรู้ไว้ว่าไม่มีคำภาวนา ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้รับสัญญาณว่าหมดเวลา



พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2010 เมื่อ 03:12
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา