ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 26-02-2019, 00:03
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,875 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในส่วนของการสร้างพระพุทธรูปทองคำต้องวางโครงการระยะยาว เพราะว่าถ้าไปรอตอนนั้นบางทีอาจจะทำไม่ไหว ต้องดำเนินการล่วงหน้าจะได้ไม่เครียด

ทองคำที่หล่อพระต้องใช้ประมาณ ๔๐ กิโลกรัม ทอง ๔๐ กิโลกรัมนี่เททิ้งไปเป็นครึ่ง เพราะว่าเขาต้องต่อท่อชนวน เพื่อจะให้น้ำทองแล่นถึงกันให้ทั่ว ถ้าไม่มีชนวนก็จะเป็นฟองอากาศ กลวงโบ๋อยู่ข้างใน ทองส่วนที่เททิ้งไปนั่นแหละเยอะมาก ก็เลยกลายเป็นว่าต้องใช้เงินเป็น ๑๐ ล้านบาท เรามีเวลาดำเนินการแค่ ๖ ปี ได้เงินปีละล้านยังไม่พอใช้จ่ายเลย อาตมาไม่ค่อยชอบเสี่ยงอะไร เพราะแก่แล้ว..เหนื่อย..เอาแบบประกันความเสี่ยงดีกว่า ค่อย ๆ เก็บสะสมไปก็แล้วกัน

สมัยหลวงปู่พุก อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ท่านก็มีพระพุทธรูปรัชกาล ๒ องค์ กับธรรมาสน์ทรงบุษบกฝีมือช่างหลวง ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๗ พระราชทานให้ เป็นผลงานที่อยู่ยั้งยืนยงมาจนทุกวันนี้ ถ้าเราจัดพิพิธภัณฑ์ก็ต้องบันทึกไว้ว่าในหลวงรัชกาลที่ ๗ ถวายแก่หลวงปู่พุก

สมัยหลวงปู่เต๊อะเน็งท่านร่วมกับหลวงพ่ออุตตะมะ สร้างมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยจำลอง มาชำรุดหมดสภาพสมัยท่านอาจารย์สมเด็จ อาตมาเพิ่งบูรณะขึ้นมาใหม่ นี่ก็เป็นผลงานคู่วัดของท่าน

พอมาถึงสมัยหลวงปู่สาย ท่านสร้างเจดีย์พระพุทธเจติยคีรี บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอดเขา เป็นเจดีย์ที่คนทั้งอำเภอต้องมาไหว้ แล้วก็สร้างสะพานแขวนหลังวัด นั่นก็เป็นผลงานชั่วฟ้าดินสลายของท่านเหมือนกัน

พอมารุ่นของท่านอาจารย์สมเด็จฯ สร้างพระเจดีย์ ๘๔ พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ก็อยู่ยั้งยืนยงมาจนทุกวันนี้ สมัยท่านอาจารย์สมพงษ์ ก็ร่วมมือกับท่านป๊อบช่วยกันสร้างสมเด็จองค์ปฐม ๘ ศอกบนยอดเขา ถึงแม้จะไม่สำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทำให้อาตมาต้องควักจ่ายไปหลายแสนถึงจะเสร็จก็ตาม แต่ถือว่าเป็นผลงานในยุคของท่าน

พอมาถึงรุ่นของอาตมา ต้องมาปรับปรุงของเก่า ของใหม่ที่จะทำก็ต้องดูสถานที่ เพราะบางวัดสร้างถาวรวัตถุแล้วไม่ได้ดูสถานที่ ทำจนรกรุงรังไปหมด ท้ายสุดก็เลยคิดว่า ถ้าอยู่ถึง ๖๐ ปีก็หล่อพระทองคำสักองค์หนึ่งไว้ให้เขาบูชา
ตลอดไป ให้เป็นพระสำคัญคู่วัดท่าขนุนอีกหนึ่งองค์

ผลงานของอาตมาอย่างน้อย ๆ สมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกนี่มีแล้วแน่ ๆ ใครอยากไหว้องค์ใหญ่ก็ข้างหน้าถนน อยากไหว้องค์เล็กก็เข้าไปในวัด จบแค่นั้น บูรณะเสร็จสรรพทุกอย่างเรียบร้อยก็นอนตีพุงได้ ไม่อย่างนั้นไม่มีโอกาสตีพุงเสียที ทำแต่งานจนพุงหายหมด..!"


อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2019 เมื่อ 03:16
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา