ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 15-11-2013, 05:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,905 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันแรกที่สามารถรักษาอารมณ์การภาวนาพร้อมกับภาพพระ ก้าวแรกจากวัดไปจนกระทั่งกลับเข้ามาถึงหอฉันได้ รู้สึกมีความสุขเหมือนกับจะเหาะได้บินได้ รู้สึกว่าตัวเรามีกำลังพอที่จะสู้กับบรรดากิเลสทั้งหลายเหล่านี้ได้แล้ว คราวนี้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่มาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจจะกระทบอยู่ตลอดเวลา ญาติโยมส่วนใหญ่ที่ใส่บาตร ถ้าอยู่ในทางบิณฑบาต จะรู้กันหมดว่าบ้านไหนเป็นอย่างไร ก็พอจะระมัดระวังได้ทัน

ส่วนใหญ่จะมาเสียท่าตรงหน้าประตูวัด เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นโยมที่ไปงาน เหมือนกับพวกเราที่มาเฉพาะงาน มีอยู่วันหนึ่งโยมมาใส่บาตรพร้อมกับกลิ่นน้ำหอม อาตมาพอได้กลิ่นน้ำหอมก็รู้สึกว่าหอมชื่นใจน่าดม แต่ความรู้สึกก็คือว่า ถ้าเราหายใจซ้ำต้องแพ้แน่ เหมือนกับที่อาตมาบอกว่า ถ้ากับข้าวใครอร่อย อาตมาฉันได้คำเดียว เพราะถ้าตักซ้ำนี่..ไม่รู้แล้วว่าเราตักตามใจกิเลสหรือเปล่า ? ฉะนั้น..โยมคนไหนถ้าเห็นอาตมาตักกับข้าวคำเดียวนี่อย่าเสียใจ โยมทำอร่อยเกินไป ก็เลยตักได้คำเดียว

คราวนี้ในเมื่อรู้ตัวว่า ถ้าหายใจซ้ำ..เราจะหายใจตามกิเลสหรือเปล่า ? เพราะชอบกลิ่นหอมนั้น ก็เลยกลั้นใจ ในเมื่อกลั้นใจเสร็จก็ตั้งใจดูพระพี่พระน้อง ข้างหน้าข้างหลังรวมกัน ๑๑ รูปว่าเป็นอย่างไรบ้าง ปรากฏว่าขำที่ทุกท่านกลั้นใจเหมือนกันหมดเลย เวลากลับไปถึงหอฉัน เทข้าวแล้วล้างบาตรเสร็จก็มานั่งคุยกัน บอกว่า “เฮ้ย..เมื่อครู่ผมรู้นะว่าทุกคนกลั้นหายใจหมดเลย แต่ขอถามหน่อยเถอะ ว่าการกลั้นหายใจของเรานี่เป็นปัญญาหรือเปล่า หรือว่าเป็นการหนีปัญหาแต่เฉพาะหน้า ? ”

ญาติโยมฟังดี ๆ นะ คนปฏิบัติถ้าจะเอาดีจริง ๆ ต้องวิเคราะห์แม้กระทั่งเรื่องอย่างนี้ การที่เรากลั้นลมหายใจ ไม่ยอมหายใจซ้ำ เป็นการหนีปัญหาเฉพาะหน้า หรือว่าเป็นใช้ปัญญาในการปฏิบัติธรรม ท้ายสุดเกือบจะไม่ได้ฉันเช้า เพราะมัวแต่วิเคราะห์กันอยู่ สรุปลงมาตรงที่หลวงตาวัชรชัยบอกว่า “เป็นการใช้ปัญญา เพราะเราว่ากำลังของเรายังไม่พอสู้ แล้วจะโง่ไปสู้ทำไม ? ใช้ปัญญาที่พอมีของเรากลั้นหายใจไปเลย” สรุปแล้วว่าตรงนี้เป็นปัญญา เพียงแต่ว่าเป็นปัญญาที่จนแต้มจริง ๆ ไม่รู้จะใช้ไม้ไหนสู้กันแล้ว มุดดินหนีก็เอา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 09:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา