วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อครู่นี้ ท่านอ๊อด (พระพีระวิทย์ ชิตมาโร) มารายงานเกี่ยวกับระบบกันขโมย ท่านทั้งหลายอาจจะความรู้สึกช้าหรือว่าตายด้าน..! แต่วันก่อนที่ช่างติดอยู่ข้างใน พอเดินผ่านแล้วสัญญาณกันขโมยดัง กลายเป็นว่ากระผม/อาตมภาพมาถึงก่อนเป็นคนแรก ขณะที่พระเวรไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ? ก็คือพวกเราไปทำตัวเคยชินกับเสียงสัญญาณภัย เกิดอะไรขึ้นไม่ได้คิดที่จะมาดูมาแลกันเลย นี่เป็นจุดบอดประการแรก
ประการต่อไปก็คือ กระผม/อาตมภาพเคยบอกแล้วว่า ต่อให้เป็นพระใหม่ ก็อย่าเพิ่งไปไว้ใจให้ดูแลงานพวกนี้ แต่เมื่อครู่ท่านอ๊อดบอกว่า แม้แต่สามเณรภาคฤดูร้อน พวกเราก็ให้เขาเปิดปิดระบบสัญญาณภัยได้ พอสามเณรสึกหาลาเพศไป ก็ไปบอกไปกล่าวกันว่ารหัสการปิดเปิดคืออะไร จนกลายเป็นจุดบอดที่เราต้องมาปรับปรุงใหม่กันอยู่ทุกบ่อย
เพราะฉะนั้น..ขอย้ำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่า พระที่รับผิดชอบ อย่างน้อยต้องมีตำแหน่งหลัก โดยเฉพาะเวลาปิดเปิดสัญญาณเพื่อที่จะทำความสะอาด จะเป็นเวลาบกพร่องที่ร้ายแรงที่สุด เพราะว่าถ้ามิจฉาชีพฉวยโอกาสตอนนั้น เขาจะทำอะไรก็ได้ กระผม/อาตมภาพถึงได้บอกว่า ถึงเวลาแล้วให้พวกเราล็อคประตูก่อน แล้วค่อยทำความสะอาดศาลา ปรากฏว่าทำกันได้ไม่ถึงสามวัน เสร็จแล้วก็ปล่อยเหมือนเดิม ก็คือเปิดโล่งเอาไว้ตลอด..!
การที่พวกเราไม่มีจิตคิดร้าย และเชื่อว่าคนอื่นคิดเหมือนกับตนเอง อาจจะสร้างความเสียหายมากกว่าที่คิด เนื่องเพราะว่ามิจฉาชีพก็จะคอยจ้องอยู่ ต่อให้เราระวังขนาดไหน โอกาสพลาดก็มี แล้วเรายังไปเปิดโอกาสให้เขาเสียมากมาย ต้องไปนึกถึงภาษิตจีนที่บอกว่า "จิตใจทำร้ายคนไม่พึงมี แต่จิตใจระวังคน ไม่อาจจะละเลย" ไม่ใช่ว่าอยู่ร่วมกันสองวันสามวัน เห็นเขาทำงานดีก็มอบหมายหน้าที่ให้แล้ว โดยลืมในสิ่งที่กระผม/อาตมภาพสั่งไป เรื่องทุกอย่างที่สั่งไปนั้น เกิดจากประสบการณ์ของกระผม/อาตมภาพเองทั้งสิ้น
สมัยที่อยู่วัดท่าซุง ถึงเวลาพระจะออกบิณฑบาต สายที่อยู่ใกล้ที่สุดออกมาประมาณตี ๕ ครึ่ง ก็สับสวิตช์ไฟรอบวัดลง ก็คือคิดว่าสว่างแล้วประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือช่วยประหยัดไฟ เพราะว่ารอบวัดติดไฟไว้เยอะมาก เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านทราบ ตอนประชุมสงฆ์ลงปาฏิโมกข์ ท่านก็เตือนว่า "เราจะดับไฟก็ต่อเมื่อมองเห็นคนแล้วจำได้ว่าเป็นใคร ไม่อย่างนั้นแล้วมิจฉาชีพก็จะฉวยโอกาสได้ เนื่องเพราะว่ามิจฉาชีพจะกลัวอยู่สองอย่าง ก็คือเสียงดังกับแสงสว่าง" แต่พวกเราก็ประมาท กระผม/อาตมภาพไม่อยากเสียเวลามาปรับปรุงระบบสัญญาณภัยของเราทีหนึ่งสองสามแสนบาท เพราะความมักง่ายแค่ไม่กี่ครั้งของพวกเรา..!
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ใครที่เป็นตัวหลัก รู้รหัสในการปิดเปิด ไม่ใช่เที่ยวไปบอกคนอื่น แต่หน้าที่ของเราก็คือคอยเปิดปิด ต่อให้ไม่ใช่เวรของตัวเอง ถึงเวลาก็ต้องมาเปิดปิดให้เขา อย่าไปมักง่ายเที่ยวมอบให้กับคนโน้น คนนี้ คนนั้น เพราะว่าเป็นการสร้างโอกาสให้กับมิจฉาชีพที่จะเข้ามา ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาจะมาทำอะไรบ้าง..!?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-01-2024 เมื่อ 02:26
|