ถ้าใครทำแบบนี้อยู่ ก็จะไม่เสียเวลาไปจับผิดคนอื่น เพราะว่าดูที่ตัวเอง แก้ที่ตัวเองก็ไม่ไหวแล้ว ยังจะมีเวลาไปสนใจเรื่องรอบข้างอีก ก็แปลว่าวางกำลังใจผิด ถ้าใครรู้ตัวว่าผิด ก็รีบแก้ไขกลับมาให้ถูก
เราอยู่วัด คำว่า "วัด" ในที่นี้ ก็คือ "วัดว่าใจเรามีกิเลสเท่าไร ?" แล้วก็พยายามขัดเกลาให้เหลือน้อยที่สุด ก่อนที่เราจะหมดลมหายใจ ถ้าสามารถตัดละขาดกันไปได้เลยยิ่งดี
สำหรับบรรดาผู้มาบวชชีพราหมณ์ทั้งหลาย ถ้าหวังจะอยู่ปฏิบัติเกิน ๗ วัน ให้แจ้งกับแม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว หัวหน้าแม่ชีวัดท่าขนุน) ถ้าแม่ชีชื่นพิจารณาแล้วรับเราเข้ามาอยู่ตัว ก็ไปหาพระเวรสังฆทาน โกนหัวรับศีล ๘ ที่นั่น แล้วไปหาเลขาฯ พัฒน์ (พระพัฒน์ ฐิตาจาโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน) เอาบัตรประชาชน หรือว่าบัตรแสดงตน ไปให้ท่านลงทะเบียนข้อมูลเอาไว้ คราวนี้ก็อยู่สู้กันต่อไป ว่ากิเลสจะชนะ หรือว่าเราจะชนะ ? แต่ส่วนใหญ่เห็นแพ้ยับเยินทุกที..!
เพียงแต่ว่าแพ้แล้วต้องทำตัวเป็นคนหน้าด้าน ลุกขึ้นสู้ใหม่ ไม่ใช่แพ้แล้วแพ้เลย ถ้าเราพยายามสู้ นานไปเมื่อมีความชำนาญมากขึ้น กำลังใจเข้มแข็งขึ้น เราก็มีโอกาสชนะบ้าง หลังจากนั้นถ้ายังเพียรพยายามไม่ท้อถอย เราก็จะชนะมากกว่าแพ้ แล้วท้ายที่สุดเราก็จะไม่แพ้อีก
เพียงแต่อย่าพยายามไปเก็บ "ขี้" มาใส่ตัวให้มากนัก ไม่ว่าจะเป็น ขี้รัก ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง สนใจเรื่องของคนอื่นมากกว่าตัวเอง ถ้าหมั่นขยันเก็บ "ขี้" ใส่ตัวเองมาก ๆ เข้า โอกาสที่เราจะขัดเกลาตัวเองให้สะอาดก็ยาก
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2024 เมื่อ 02:23
|