ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 13-10-2011, 03:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,533 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่สองก็คือ การที่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ไม่ละทิ้งซึ่งความเพียร แม้จะเป็นความเพียรที่เกิดจากการโดนบังคับก็ตาม แต่ว่าเมื่อปฏิบัติต่อเนื่องไม่ลดละ ความดีก็จะทรงตัว ทำให้รองรับความดีในระดับสูงขึ้นไปได้ง่าย เมื่อเราเห็นชัดแล้วว่า เราบกพร่องในตัวสัจจะบารมี บกพร่องในตัววิริยะบารมี เพราะขาดความเพียรที่ต่อเนื่อง เราก็ต้องมาเน้นในตรงจุดที่เราขาดและบกพร่อง

สำหรับข้อต่อไปที่ส่วนใหญ่แล้วนักปฏิบัติของพวกเรา โดยเฉพาะในสายของหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็คือ ขาดปัญญาบารมี เหตุที่ขาดปัญญาบารมีก็เพราะว่าพวกเราถ้าไม่ได้ไปเน้นในมโนมยิทธิ ก็จะไปเน้นในสมาธิภาวนา ทำให้เรารักษาศีลได้ เจริญสมาธิได้ แต่ขาดปัญญาในการพิจารณาห้ำหั่นตัดกิเลส ส่วนใหญ่แล้วจะพิจารณาไม่เป็น แม้ว่าพิจารณาเป็นก็ขาดความละเอียด ทำให้สภาพจิตไม่อาจจะยอมรับสภาพความเป็นจริงได้

อย่างเช่นว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยงอย่างไร ในเมื่อพิจารณาไม่ละเอียด เห็นไม่ชัดเจนก็เป็นความรู้สึกแค่ผิวเผิน กำลังใจก็ไม่ตัดไม่ละ ยังรักยังห่วงร่างกายอยู่เหมือนเดิม ร่างกายนี้เป็นทุกข์อย่างไร ก็สักแต่รู้ว่าทุกข์ แต่ไม่ได้เห็นถึงความทุกข์นั้นอย่างชัดเจน จนจิตเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัดหมดความต้องการในร่างกายนี้ หมดความต้องการในร่างกายคนอื่น

เมื่อเป็นดังนี้ก็แปลว่าเรายังบกพร่อง จึงจำเป็นต้องใช้ปัญญาบารมีในการพิจารณาเพื่อให้สภาพจิตนั้นยอมรับ ในเมื่อศีลของเราดีแล้ว สมาธิของเราทรงตัว ก็แปลว่ากำลังที่จะใช้ปัญญานั้นมีเหลือเฟือเกินพอ เพียงแต่เราต้องมาซักซ้อมการพิจารณากัน

ดูให้ละเอียดว่า เราเกิดมาอาศัยอยู่ในอัตภาพร่างกายนี้ มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายตัวไปในที่สุด หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ ถ้าหากว่ามีความเที่ยงก็จะต้องทรงตัวอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

แต่นี่เราเกิดจากเด็กเล็ก ก็เป็นเด็กโต เป็นเด็กหนุ่มเด็กสาว เป็นคนหนุ่มสาว เป็นวัยกลางคน เป็นคนแก่แล้วตายไป หรือบางทีอาจจะตายตั้งแต่เด็ก ตายตั้งแต่หนุ่มสาว ตายตั้งแต่กลางคนก็ได้ เราต้องพิจารณาแยกแยะให้เห็นชัดเจน

แรก ๆ ต้องทำให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากซักซ้อมพิจารณาบ่อย ๆ ปัญญาที่แท้จริงเกิดขึ้น สภาพจิตยอมรับว่าสิ่งที่เรารู้เห็นนั้นเป็นความจริงแท้ เราก็จะเข้าถึงตัวปัญญาที่แท้จริง เพราะสภาพจิตยอมรับ และปล่อยวางร่างกายนี้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2011 เมื่อ 06:19
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา