เมื่อกำลังใจทรงตัวตั้งมั่นแล้ว ก็มาทบทวนศีลของเราทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ กำหนดใจแผ่เมตตาไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า หลังจากที่ภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว ทบทวนศีลทุกสิกขาบทจนบริสุทธิ์บริบูรณ์แล้ว ก็ส่งกำลังใจไปเกาะพระบนพระนิพพาน
ถ้าไม่สามารถทำได้ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นเป็นภาพพระพุทธนิมิตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วตั้งกำลังใจจดจ่อปักมั่นอยู่กับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นนั้น
ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็กำหนดดูกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ถ้ามีคำภาวนาอยู่ก็กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลงกำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป ลมหายใจหายไป ให้กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป ลมหายใจหายไป อย่าดิ้นรนกลับมาหายใจใหม่ ให้ทำกำลังใจรับรู้เหตุการณ์นั้นไว้เฉย ๆ แล้วสภาพจิตจะดิ่งลึกลงไปเป็นสมาธิเข้าไปจนถึงระดับที่ต้องการ
ลำดับต่อไปให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2017 เมื่อ 11:30
|