ดูแบบคำตอบเดียว
  #222  
เก่า 09-08-2010, 14:11
ยายนุ้ย ยายนุ้ย is offline
สมาชิก
 
วันที่สมัคร: Apr 2009
ข้อความ: 8
ได้ให้อนุโมทนา: 2,941
ได้รับอนุโมทนา 2,453 ครั้ง ใน 46 โพสต์
ยายนุ้ย is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วาโยรัตนะ อ่านข้อความ
"เหมือนตายไปแล้ว"

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกและครั้งใหญ่ที่สุด ที่ล้มหมอนนอนเสื่อเข้าโรงพยาบาล ก่อนผ่าตัดกับหลังผ่าตัด อารมณ์มันช่างแตกต่างกันเสียเหลือเกิน เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เก้าโมงเช้า กว่าจะได้เข้าห้องผ่าตัดก็บ่ายสองโมงเย็น นอนภาวนาไปบ้าง ฟุ้งไปบ้างแล้วแต่จะจิตมันเผลอไปขนาดไหน อดอาหาร อดน้ำ ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ใกล้ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด ค่อย ๆ บรรจงถอดพระเครื่อง พร้อมพนมมืออธิษฐาน "ขอบารมีพระคุ้มครอง ตั้งใจว่า ท่านใดที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรในครั้งนี้ เราขออุทิศส่วนกุศลที่ทำมาดีแล้วตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ขอท่านจงโมทนาและขออโหสิกรรมต่อกัน นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

เวรเปลค่อย ๆ เข็นรถนำไปยังห้องผ่าตัด สภาพมันช่างดูน่าสังเวชใจ เหมือนตอนที่ "สัปเหร่อเข็นโลงเข้าเตาเผา"พอขึ้นบนเตียงผ่าตัดได้ไม่นาน คุณหมอก็มาบอกว่าไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวจะวางยาสลบ แค่ไม่กี่อึดใจที่กระผมนอนภาวนาอยู่ สติมันค่อย ๆ เลือนไป ทั้ง ๆ ที่พยายามจับคำภาวนาสู้เอาไว้

มารู้สึกตัวอีกที มองไปที่นาฬิกา ทุ่มกว่า ๆ แล้ว มีสายอะไรไม่รู้อยู่ในคอมันเจ็บไปหมด ร่างกายอ่อนกำลังจะขยับแขนก็ไม่มีแรง เพราะฤทธิ์ยาสลบ พยายามตั้งสติภาวนาเอาไว้ จนคุณหมอเดินมาเรียก "คุณรัตน์ คุณรัตน์ ฟื้นหรือยังคะ" กระผมค่อย ๆ ลืมตาพยักหน้าตอบรับ หลังจากนั้นก็เวรเปล ก็เข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เสียงลูกกับภรรยาร้องเรียกอยู่ใกล้ ๆ

ในชีวิตไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน มันแสบร้อนไปหมด ขอน้ำกิน พอดูดน้ำเข้าไป เลือดก็ไหลทางจมูกตลอด ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ทน พลางคิดในใจ "เราทำกรรมกับใครไว้ตอนไหนก็ตาม ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันทรมานขนาดไหน เราขออโหสิกรรม เราไม่ขอโกรธแค้นใด ๆ เราขอชดใช้ให้ด้วยความเต็มใจ"

หายใจทางจมูกไม่ได้ต้องหายใจทางปากแทนมันทรมานมาก ใจก็คิดไปเมื่อสมัยตอนกระผมยังไม่ได้ปฏิบัติธรรม ก็ชอบตกปลาไปตามประสาเด็กชาวเกาะ มันเหมือนปลาที่เราปลดจากเบ็ดแล้วยังไม่ตาย ยังกระเสือกกระสนดิ้นรนหายใจอยู่ นอนก็ไม่หลับแทบทั้งคืนเพราะมันเจ็บ ค่อย ๆ จิบน้ำ อมเอาไว้ทีละนิดให้มันหายคอแห้ง
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ เหตุการณ์ผ่านมาแล้วนับว่าโชคดีค่ะ ยายนุ้ยเคยเจออารมณ์แบบนี้มาแล้วเช่นกัน เข้าใจค่ะ สู้ ๆ ต่อไปนะคะ

ตอนนั้นยายนุ้ยรู้ซึ้งถึงคำว่า แม้แต่ลูกและสามีที่ว่ารักนักรักหนา ก็ไม่อาจช่วยอะไรเราได้เลย สุดท้ายหากเราจะต้องตาย ณ ขณะนั้น เราคงต้องตายคนเดียว แล้วอารมณ์สลดสังเวชก็เกิดขึ้น จับลมหายใจภาวนา พุทโธ ๆ ๆ ๆ ๆ...แล้วแต่แพทย์จะจัดการต่อไปตามวิถีทาง

แต่ในที่สุดก็ยังรอดมาได้ค่ะ ฮิฮิ..เลยต้องมานั่งชดใช้กรรมกันต่อไป
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ยายนุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา