ดูแบบคำตอบเดียว
  #11  
เก่า 07-10-2017, 21:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,126 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จุลกฐินนั้นเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก เนื่องจากว่าต้องทอผ้าในวันนั้น ตัด เย็บ ย้อม เพื่อที่จะถวายให้ทัน เป็นการแสดงออกซึ่งความสามัคคีกลมเกลียวของบุคคลอยู่ในสถานที่เดียวกัน เพราะว่าสมัยก่อนนั้นทุกครอบครัวต้องมีคนที่ทอผ้าเป็น เนื่องจากว่าไม่มีผ้าขายในท้องตลาด นอกจากต้องทอผ้าขึ้นมาใช้งานเอง

ก็จะมีการแบ่งกันทอคนละคืบคนละศอก แล้วนำมาตัดเย็บเป็นจีวร ซึ่งถ้าญาติโยมสังเกตจะเห็นว่า ผ้าจีวรนั้นประกอบขึ้นมาจากผ้าผืนเล็ก ๆ หลายชิ้นด้วยกัน ภาษาบาลีเรียกว่า กุสิ ก็จะเป็นแนวเล็ก ๆ ยาว ๆ เหมือนคันนา อัฑฒกุสิ ก็เป็นแนวสั้น พูดง่าย ๆ ว่าถ้ากุสิเป็นแนวยาว อัฑฒกุสิเป็นแนวขวาง เป็นต้น มณฑล ก็คือช่องจีวรใหญ่ อัฑฒมณฑล ช่องจีวรเล็ก แล้วก็ยังมีอนุวาต ก็คือขอบจีวร

ดังนั้น...ก็ต้องแบ่งปันกันว่าใครจะทอส่วนไหน ชิ้นไหน เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้ว ก็นำมาเย็บต่อกันเป็นจีวรขึ้นมา เมื่อเย็บต่อเป็นจีวรแล้ว ก็ยังต้องย้อมเพื่อให้ได้สีที่ต้องการ ซึ่งจีวรที่พระพุทธเจ้าอนุญาตนั้นมี ๓ สี ก็คือ สีกรักซึ่งส่วนใหญ่จะย้อมจากแก่นขนุน สีเหลืองซึ่งส่วนใหญ่ย้อมด้วยขมิ้น และสีเหลืองเจือแดงเข้ม ที่สมัยก่อนย้อมด้วยดินลูกรัง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2017 เมื่อ 05:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา