คำสอนสมเด็จองค์ปฐม
ทุกคนในโลกไม่มีทุกข์นั้นไม่มี
จงมองทุกคนในโลก จักเห็นว่าไม่มีทุกข์นั้นไม่มี
ทุกข์ของการมีร่างกาย ทุกข์ของการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ทุกข์ด้วยอารมณ์ของจิตที่เบียดเบียนตนเอง การมีชีวิตทรงอยู่ในโลกจึงเต็มไปด้วยความทุกข์
เมื่อเจ้าเห็นเป็นประการนี้ ก็จงดูชาวโลกุตรชน
จักเห็นความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานอยู่ในจิตที่สงบของทุกท่านในที่นี้
อย่าว่าแต่เพียงตถาคตหรือพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ หรือพระอรหันต์สาวกเลย แม้พรหม เทวดา นางฟ้า
ผู้ล่วงเข้าสู่โลกุตรชน ก็ทำการตัดกิเลสให้จิตได้สุขสงบตามลำดับแห่งบารมีธรรมของตนเองนั้น ๆ
เพราะฉะนั้น พวกเจ้าก็เช่นกัน วันทั้งวัน คืนทั้งคืน จงหมั่นตัดกิเลสตามกำลังของตน
เพื่อทำให้จิตสุขสงบขึ้นมาตามลำดับเถิด
หากกรรมใดทำแล้ว จิตเศร้าหมองปราศจากความสุขสงบ จงหมั่นหนี เลี่ยงการกระทำนั้น
ทุกอย่างต้องใช้ปัญญาอันเป็นสัมมาทิฏฐิเข้าพิจารณาและใคร่ครวญ
อย่าคิดอย่าทำอะไรที่ขาดสติและนำมาซึ่งการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นเป็นอันขาด
อยากมานิพพาน จงทำกิจเพื่อพระนิพพานให้เข้มแข็งจริงจังด้วย
ทำกันที่จิตนี่แหละ เป็นประการสำคัญ เพราะการมาพระนิพพานเขาใช้จิตมา มิใช่ใช้ร่างกายมา
ร่างกายเป็นสมบัติของโลก ในที่สุดก็ต้องคืนสู่โลกไป
อย่าห่วงร่างกายให้มาก เพียงแต่ทำให้มันตามหน้าที่ที่มีร่างกายตามความจำเป็นเท่านั้น
เห็นทุกข์ เห็นโทษของการมีร่างกายให้ชัดเจน
เพื่อความเป็นประโยชน์อันจักนำมาซึ่งการตัดร่างกายทิ้งไปได้ในที่สุด
เมื่อถึงวาระของการดับแห่งร่างกายนั้นได้เกิดขึ้น
การทรงอารมณ์สังขารุเบกขาญาณต้องใช้ปัญญารอบรู้ตามความเป็นจริง
รู้ปกติธรรมของร่างกาย ทำทุกอย่างตามปกติธรรมนั้น
ร่างกายมีโรคะเบียดเบียนตัวมันเองอยู่ตลอดเวลา
จิตของพวกเจ้าต้องไม่เบียดเบียนตนเองตามอาการของร่างกายนั้น ๆ
หิวก็รู้ว่าหิว หาให้กินตามหน้าที่ ร้อนหรือหนาวก็รู้อยู่ ป่วยก็รู้อยู่ หาหยูกหายารักษา
แต่รู้ด้วยความไม่กังวล เห็นปกติธรรมของร่างกายว่ามันเป็นอย่างนี้เอง
รักษาอารมณ์ใจเข้าไว้ ให้ยอมรับกฎของธรรมดา จิตก็จักไม่ดิ้นรน
ฝึกสภาวะของร่างกาย จิตก็จักสุขสงบได้ไม่ยากเย็น
จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน