การสวดมนต์ไหว้พระ ถ้าทำเป็นก็แปลว่าได้ผลมหาศาล ถ้าทำไม่เป็นก็ได้น้อยหน่อย การสวดมนต์ทั่ว ๆ ไปอย่างน้อยต้องมีสมาธิทรงตัว ไม่อย่างนั้นถ้าเผลอ สมาธิเคลื่อนเมื่อไรก็สวดผิด ถ้าหากว่าเราได้มากกว่านั้น ก็คือ เอาคำสวดเป็นคำภาวนา มีหลายคนอาศัยคำสวดมนต์เป็นคำภาวนา ถึงเวลาฟังคนอื่นสวด ตัวเองนั่งแข็งทื่อ สวดมนต์ต่อไม่ได้ เพราะสมาธิสูงเกินไปแล้ว ก็แปลว่า สามารถใช้การสวดมนต์เป็นการภาวนาจนทรงฌานได้
ถ้าอยากได้ประโยชน์มากกว่านั้น สำหรับบุคคลที่ได้มโนมยิทธิ ให้ยกจิตขึ้นไปสวดมนต์ถวายพระบนพระนิพพาน ถ้ากำลังใจทรงตัวจดจ่ออยู่ที่นั่น ตายตอนนั้นก็ไปอยู่ที่นั่นเลย หรือถ้าใครแปลคำสวดมนต์ออก ปฏิบัติตามคำที่แปลได้ ก็เท่ากับว่าเราปฏิบัติธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั่นเอง
ดังนั้น..ในเรื่องของการสวดมนต์ไหว้พระ ถ้าทำไม่เป็นประโยชน์ก็น้อย ถ้าทำเป็นก็ได้ประโยชน์มหาศาล แต่ว่าขนาดประโยชน์น้อย ๆ รับรองว่าได้มากกว่ามัฏฐกุณฑลีเทพบุตรเยอะเลย เพราะว่าเราตั้งใจกราบพระแล้วถึงสวดมนต์ บางท่านบอกว่าเหมือนกับการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ดังนั้น..วัดท่าขนุนจึงมีการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าวันละ ๓ รอบ คือรอบเช้า รอบเย็น แล้วก็รอบค่ำที่กำลังจะสวดกันนี้ ก็ถือว่าเป็นอนุสติใหญ่ โดยเฉพาะพุทธานุสติที่เข้าสู่พระนิพพานได้ง่ายที่สุด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2014 เมื่อ 17:05
|