ดูแบบคำตอบเดียว
  #376  
เก่า 24-08-2017, 16:14
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,548 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ท่านกล่าวถึงความเข้าใจที่เคยคาดว่า จิตมีความละเอียดเท่าไรก็ยิ่งจะมีความสุขความสบาย งานการจะค่อยเบาบางไป ๆ นั้น มาถึงตอนนี้กลับเป็นตรงกันข้ามไปหมด ดังนี้

“... บางทีจนรำคาญเหมือนกันนะ เพราะมันหมุนไม่หยุดไม่ถอย ‘เอ๊.. นี่มันอะไรกัน ?’ แต่มันคิดได้ชั่วขณะเท่านั้นนะ แต่พอหยุดคิดปั๊บ มันพุ่งใส่งานนั้นเลย คือ ความคาดของเรานั้นกับความจริงนี้.. มันห่างกันคนละโลกเลย คือเราคาดไว้อย่างนี้นะว่า ‘จิตนี้ได้มีความละเอียดลออเข้าไปเท่าไร ก็ยิ่งจะมีความผาสุกสบาย งานก็ยิ่งจะน้อยเข้าไป ๆ สบายเข้าไปเรื่อย ๆ ?’ นี่เราคาดเราคิดนะ


แต่เวลาความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้น เข้าสมาธินี้ก็เหมือนงานน้อยจริง ๆ พอพิจารณาปั๊บ ๆ ก็รวมสงบแล้ว อยู่สบายเป็นคนขี้เกียจ นอนตายอยู่ในสมาธินั้น ความจริงเจ้าของขี้เกียจต่างหาก ตอนนี้งานน้อยนี่ คือมันอาศัยความสงบ มันติดความสงบ

พอออกทางด้านปัญญา พอได้เหตุได้ผลทางด้านปัญญาแล้ว ทีนี้มันเห็นผลแล้ว ทีนี้นะ มันเริ่มละ ทีนี่เริ่มหมุนเรื่อย ๆ พิจารณาเข้าไปเรื่อย.. เข้าใจเรื่อย.. แก้เรื่อย ถอดถอนกิเลสได้ด้วย ขาดเรื่อยไปเรื่อย ๆ เอาละ ทีนี่นะ ทีนี้ก็เป็นธรรมจักรหมุนตัวเป็นเกลียว เอาละทีนี้ต้องได้รั้งเอาไว้แล้ว ทีนี้บทเวลามันเพลีย.. ถึงร่างกายก็เพลียด้วย ไม่ได้เพลียแต่ตรงนี้นะ ในร่างกายทุกส่วนก็รู้สึกเพลีย เพราะจิตทำงาน ปัญญาพิจารณาค้นคว้า.. เขาเรียกว่าทำงาน

ก็รำพึง ‘เอ๊.. เราคิดไว้ว่า เมื่อจิตมีความละเอียดลออเข้าไปเท่าไร ยิ่งจะมีความสุขมาก ๆ ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงเป็นอย่างนี้ ? มันสุขมากยังไง ? มันวุ่นกับงานตลอดจนแทบจะเป็นจะตาย ถ้าว่างงานมันก็ยิ่งมากเข้าไปโดยลำดับ’

มันไม่เหมือนกันตั้งแต่ก่อนที่เราคาดไว้ว่า จิตละเอียดเข้าไปเท่าไร.. งานยิ่งจะน้อยลงไป ๆ และจะมีความสุขยิ่งสบาย ๆ แล้วหมดไปเลย สิ้นไปเลย นี้เป็นความคาดหมายต่างหาก.. ไม่ใช่ความจริง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2017 เมื่อ 16:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา