STRONG โมเดลนั้น ประกอบไปด้วย
S (Sufficient) คือความพอเพียง โดยคำนึงถึงหลักประโยชน์ ๓ ในการทำงาน คือประโยชน์ส่วนตน ประโยชน์ผู้อื่น และประโยชน์ในทั้งสองสถาน
T (Transparent) คือความโปร่งใส คำนึงถึงประโยชน์สุขของส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่เห็นแก่ตัวเอง
R (Realize) คือความตื่นรู้ โดยยึดหลักสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นชอบในเรื่องดีงามเป็นแกนกลาง
O (Onward) คือการมุ่งไปข้างหน้าโดยใช้หลักจักขุมา หรือว่าวิสัยทัศน์ในการทำงาน
N (Knowledge) คือความรู้ โดยใช้หลักวิธุโร หรือมีความฉลาดในการทำงาน
และสุดท้าย G (Generosity) คือความเอื้ออาทร โดยใช้หลักนิสสยสัมปันโน หรือความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานนั้น ๆ
เมื่อหลักทั้ง ๖ ประการดังกล่าวนี้เกิดขึ้น ย่อมส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งขึ้นในชุมชน องค์กร หน่วยงาน และประเทศ เพราะว่าการสร้างรากฐานแห่งความดีงาม ให้เข้มแข็งด้วยความซื่อสัตย์สุจริต นับได้ว่าเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง
ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งตรัสไว้ว่า ความซื่อสัตย์สุจริต เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดขึ้นในตัวเอง เพื่อจักได้เป็นคนดี มีประโยชน์ มีชีวิตที่สะอาดและเจริญมั่นคง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2023 เมื่อ 17:08
|