ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 21-05-2010, 06:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,003 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อสุดท้ายพระองค์ท่านตรัสเอาไว้ว่า อะธิจิตเต จะ อาโยโค ต้องหมั่นทำสมาธิให้จิตทรงตัวตั้งมั่น เพื่อชำระจิตของตนให้ผ่องใส ตั้งมั่นอยู่ในความดี บุคคลที่มีสมาธิทรงตัว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ก็จะสำเร็จลงด้วยดี สำเร็จลงโดยง่าย

ในขณะเดียวกัน ก็มีปัญญาเห็นชัดเจน อย่างเช่นว่า ญาติโยมทั้งหลายดำเนินชีวิตอยู่ บางทีท่านทั้งหลายมีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เพราะว่าท่านเอาปัญหาทั้งหลายทั้งปวงมานั้นรวมกัน ก็เลยกลายเป็นงานใหญ่กองอยู่ตรงหน้า ไม่สามารถจะชำระสะสางได้ เพราะเห็นว่าเกินกำลัง

แต่ถ้าท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติในสมาธิภาวนา ชำระใจตนให้ผ่องใส ให้สติตั้งมั่นอยู่เฉพาะหน้า เราจะแยกแยะได้ว่า ปัญหาทั้งหลายเหล่านั้น จริง ๆ แล้วมีลำดับเร็วช้า มีลำดับก่อนหลังด้วยกัน

เราก็เลือกเอาปัญหามาถึงก่อน มาถึงเร็วกว่า เอาขึ้นมาเพียงเรื่องเดียว แล้วแก้ไขไป ก็จะไม่เกินกำลังของเรา แม้จะก่อนหลังเร็วช้าสักห้านาที สิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมง ก็ยังดี

ถ้าสมาธิจิตของท่านตั้งมั่นอยู่ตรงหน้า ก็สามารถที่จะหยิบเอาแต่ละปัญหา ขึ้นมาแก้ไขตามสถานการณ์ ตามเวลา ก็ไม่ต้องเอาปัญหามากองสุมรวมกันจนเป็นภูเขา เกินกำลังที่จะแก้ได้ เป็นต้น

เมื่อท่านทั้งหลายมีจิตที่สงบอย่างแท้จริง สภาพจิตที่สงบ จะสะท้อนให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างอย่างชัดเจน โดยเฉพาะถ้าเกิดความสงบ ตัวปัญญาก็จะปรากฏขึ้นชัด ท่านที่ตั้งใจปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ก็จะเห็นแนวทางว่า จะควบคุม กาย วาจา หรือใจของตนเองได้อย่างไร

ดังนั้น..ในความสำคัญของวันมาฆบูชา ก็คือวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงประกาศอุดมการณ์ในพระพุทธศาสนา มีเป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน และขณะเดียวกันก็บอกชัดว่า จะต้องมีความอดทนอดกลั้น จึงสามารถที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ การจะเป็นบรรพชิตผู้ชนะตัวเอง ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ หรือการจะเป็นสมณะผู้ที่สงบอย่างแท้จริง ต้องไม่เบียดเบียน ไม่เข่นฆ่าผู้อื่น เป็นต้น

ได้ประกาศหลักการในพระพุทธศาสนา คือละชั่ว ทำดี ชำระให้ผ่องใส และประกาศวิธีการในพระพุทธศาสนาคือ การไม่ว่าร้ายใคร ไม่ทำร้ายใคร สำรวมในศีลของแต่ละคน และขณะเดียวกัน ให้รู้ประมาณในการกิน รู้จักสร้างความสงบทางกาย ทางวาจา ทางใจ ของตน จนกระทั่งสมาธิตั้งมั่น เกิดตัวปัญญานำทางของเรา

ในขณะที่ยังเป็นโลกียบุคคล ก็สามารถที่จะทำงานทำการทุกอย่างได้ด้วยความคล่องตัว เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ถ้าตั้งใจปรารถนาความหลุดพ้น จิตใจที่ผ่องใสก็จะมีปัญญาในการตัดกิเลส ทำให้ท่านทั้งหลายสามารถหลุดพ้นเข้าถึงพระนิพพานได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2010 เมื่อ 15:20
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา