ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 19-06-2009, 14:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default อุปสมบทที่วัดท่าซุง

อุปสมบทที่วัดท่าซุง

อาตมาอยู่สหรัฐอเมริกา ๑๓ ปี ตั้งใจกลับมาบวชที่วัดท่าซุง กลับมาเมืองไทยราว ๆ วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๔ (กลับไปนอนค้างคืนที่บ้าน ๑ คืน เพื่อบอกบิดามารดา) แล้วก็มาอยู่วัดท่าซุงจนถึงวันอุปสมบท

เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ขณะนั้นอายุ ๓๓ ปี
ช่วงอาตมาเป็นนาค หลวงพ่อเรียกอาตมาว่า "แป๊ะ" แล้วท่านถามอาตมาว่า
"แป๊ะ" แปลว่าอะไรได้บ้าง ก็ตอบท่านว่า
"คนแก่" แต่หลวงพ่อพูดว่า แปลว่า "ขาว"ก็ได้ เพราะตอนกลับมาจากสหรัฐฯ ตัวจะขาว ท่านเลยเรียก "แป๊ะ" ตั้งแต่แรกและตลอดมาจนติดปาก จึงภูมิใจที่หลวงพ่อท่านได้ตั้งชื่อนี้ให้ คล้ายกับหลวงปู่ปานที่เรียกหลวงพ่อแบบชื่อเล่นเช่นกัน (ที่คนทั่วไปรู้จักนามว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ หลวงปู่ปานตั้งชื่อเล่นให้ "ลิงดำ")

หลวงพ่อได้ถามว่า
"จะบวชนานแค่ไหน" ตอบท่านว่า
"ไม่ทราบครับ" เพราะไม่มั่นใจ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจว่าจะมาบวชยาว พอมาอยู่วัดแล้วรู้เลยว่าการอยู่เป็นพระตลอดไปไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะช่วงนั้นพระที่บวชหลายพรรษากำลังจะสึกไล่เลี่ยกันหลายองค์เลย จึงต้องพิจารณาดูไปทีละวัน ท่านจึงบอกว่า

"เอาอย่างนี้ ให้ตั้งใจบวช ๓ ปีก่อน พอครบ ๓ ปี ตั้งใจบวชอีก ๓ ปี พอครบอีก ๓ ปีตั้งใจบวชอีก ๓ ปี พอครบ ๙ ปี แกก็แก่แล้ว จะสึกไปทำไม ให้ตั้งใจอย่างนี้นะ"
ก็ตอบท่านว่า "ครับ"

ขณะเป็นนาคอยู่ที่วัด หลวงพ่อได้เมตตาอย่างมาก เวลาท่านรับแขกก็ขึ้นไปฟังท่านบนศาลานวราช พอเลิกรับแขกเวลา ๑๖.๐๐ น. ท่านชวนไปตรวจงานแถว ๆ พระจุฬามณี ฯ (ตอนนั้นสร้างห้องพักแถวตึกอำนวยการ ชวนไปนั่งคุยแถว ๆ นั้น จนเย็นจึงกลับที่พัก)

เช้าวันหนึ่งใกล้วันบวช หลวงพ่อกำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พอเจออาตมาเดินมา หลวงพ่อก็สวดขึ้นมาดัง ๆ แบบสวดนาค โดยสวดว่า สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ แล้วถามว่า

"สวดนาคคล่องหรือยัง" ตอบท่านว่า
"พอได้แล้วครับ"
"ไหนลองสวดให้ฟังหน่อย" ก็สวดว่า
"เอสาหัง ภันเต" พอหลวงพ่อได้ยินเสียงที่อาตมาสวด ท่านพูดว่า
"นี่มันทำนองเจ๊กนี่หว่า พระพุทธเจ้าเป็นแขก ต้องสวดให้เป็นเสียงแขก" แล้วก็สวดให้ฟังใหม่ ท่านก็ว่านี่มันทำนองเจ๊ก พวกตำรวจอยู่แถวหน้าตึกก็พากันหัวเราะ แล้วอาตมาก็ไปช่วยพระประเคนอาหารเช้า

หลังจากอาตมาบวชแล้ว เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๔ เมื่อหลวงพ่อกลับจากกรุงเทพฯ ในตอนเย็น ลงทำวัตรสวดมนต์ นั่งกรรมฐานกันทั้งวัด หลวงพ่อนั่งเป็นประธาน พอเลิก หลวงน้าอรุณรองเจ้าอาวาสเตรียมพานธูปเทียนแพ ให้อาตมาถวายสังฆทานสักการะแก่หลวงพ่อ

พอหลวงพ่อรับพานจากอาตมาแล้ว ท่านก็ใช้ฝ่ามือตบศีรษะอาตมาเต็มแรงพร้อมพูดว่า
"ไอ้นี่มันใช้ได้" แล้วก็ตบอีกครั้งที่ ๒ เต็มแรง พูดว่า
"ไอ้นี่มันใช้ได้" แล้วก็ตบอีกครั้งที่ ๓ เต็มแรง แล้วพูดว่า
"ไอ้นี่มันใช้ได้" มือท่านหนักมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-06-2009 เมื่อ 20:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 338 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา