ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 17-08-2010, 09:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,451
ได้รับอนุโมทนา 4,406,177 ครั้ง ใน 34,112 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น ท่านทั้งหลายถ้าหากยังไม่สามารถจะทรงปฐมฌานได้ เราก็ยังเดือดร้อนกับกามราคะตลอดเวลา ถ้าทรงปฐมฌานได้ เราสามารถที่จะพ้นได้ชั่วคราวขณะที่ทรงฌาน แต่ถ้าหากทรงฌานสี่ได้คล่องตัวเมื่อไร รู้สึกตัวว่าจะเกิดกามราคะขึ้น เราก็สามารถที่จะระงับยับยั้งได้ทันท่วงที

ส่วนในเรื่องของปฏิฆะ อารมณ์กระทบใจนั้น ถ้าเราอยู่กับปฐมฌานละเอียด สติ สมาธิและปัญญาที่แหลมคม จะทำให้รู้ว่า สิ่งนี้กระทบแล้วจะเกิดราคะ สิ่งนี้กระทบแล้วจะเกิดโลภะ สิ่งนี้กระทบแล้วจะเกิดโทสะ เราก็พยายามหลีกเลี่ยง

การเลี่ยงในระยะแรก ก็คือ การอยู่กับตัวสมาธิ อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา ไม่ไปครุ่นคิด ไม่ไปสนใจ ก็ทำให้ราคะ โลภะ โทสะ กำเริบไม่ได้ หลังจากนั้นถ้าสามารถพัฒนาสมาธิให้ทรงตัวยิ่งขึ้นไป กำลังระงับยับยั้งในตัวปฏิฆะก็มีมากขึ้น จนกระทั่งท้ายสุดเมื่อทรงฌานสี่ทรงตัว ก็จะสามารถระงับยับยั้งได้โดยฉับพลันทันที

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปฏิฆะจะหายไป จนกว่าเราจะพิจารณาเห็นทุกข์เห็นโทษ แล้วถอนกำลังใจออกมา ไม่รับแรงกระทบต่าง ๆ โดยสิ้นเชิงแล้ว เราจึงสามารถที่จะพ้นไปได้ แปลว่าท่านทั้งหลายต้องก้าวสู่ความเป็นพระอนาคามีเท่านั้น

พื้นฐานของความเป็นพระอนาคามีที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องทรงฌานสี่ได้ ถ้าไม่สามารถจะทรงฌานสี่ได้ เราไม่สามารถจะทรงความเป็นอนาคามีได้ เพราะว่ากำลังไม่เพียงพอที่จะกดราคะกับโทสะให้นิ่งสนิทลงไป

สำหรับวันนี้ก็ขอกล่าวในเรื่องของสังโยชน์เพิ่มขึ้นอีกสองข้อเท่านั้น ตอนนี้ก็ทำให้ทุกท่านตั้งใจ..กำหนดใจอยู่กับลมหายใจเข้าออกของตน ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็ให้กำหนดรู้ลม ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ก็ให้กำหนดรู้คำภาวนาไปด้วย

ถ้าหากลมหายใจเบาลง คำภาวนาขาดหายไปก็ให้กำหนดรู้ไว้ ไม่ต้องไปใส่ใจว่าเราจะต้องหายใจใหม่ ขณะเดียวกันก็อย่าไปดิ้นรนอยากให้เป็นเช่นนั้น ให้กำหนดรู้อย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกหมดเวลา


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2010 เมื่อ 12:56
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา