ขอสรุปต้นเหตุที่ยังเอาดีไม่ได้ โดยย่อ ๆ ดังนี้
๑. ชอบสงสัยธรรมที่ตนเองยังปฏิบัติไม่ถึง
๒. พวกขี้สงสัย เวลาตายก็ตายไปพร้อมกับความสงสัย มีจิตเศร้าหมองก็ต้องกลับมาเกิด แล้วสงสัยต่อไปไม่รู้จบ
๓. ธรรมะในพุทธศาสนาเป็นปัจจัตตัง ถ้าธรรมพ้นโลกจิตเรายังปฏิบัติไม่ถึง สงสัยไปก็มีแต่ขาดทุน เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า “ธรรมใดที่เธอยังไม่รู้ ยังไม่เห็น ก็ควรจะเชื่อท่านผู้รู้ผู้เห็นไปก่อน ต่อเมื่อเธอปฏิบัติจนเกิดผลแล้ว รู้เห็นได้ด้วยตนเองแล้ว เธอจักเชื่อหรือไม่เชื่อก็ย่อมได้”
หมายเหตุ ธรรมในข้อ ๓ นี้ พระองค์สอนเฉพาะพวกที่มีศรัทธาในพระองค์อย่างแท้จริง คือ มีพระรัตนตรัยหรือมีพระพุทธ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งประจำจิตตลอดชีวิต กำลังปฏิบัติบูชาอยู่ด้วยศีล-สมาธิ-ปัญญา หรือทาน-ศีล-ภาวนา มิได้สอนพวกเดียรถีย์หรือพวกนอกศาสนาที่มาถามปัญหาพระองค์ พวกเหล่านั้นพระองค์จะสอนอีกแนวหนึ่ง คือ ใช้กาลามสูตรหรือเกสปุตตสูตรที่เขียนเน้นจุดนี้ไว้ เพราะมีบุคคลที่ยังรู้ไม่จริง รู้ไม่ถึง เอากาลามสูตรมาสอนชาวบ้านให้เข้าใจผิด ๆ เพราะไม่รู้เจตนาของพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นพระสัพพัญญูหรือมีพุทธญาณแต่ผู้เดียว ผู้อื่นไม่มี รายละเอียดมีอยู่มาก จึงขอเขียนไว้สั้น ๆ แค่นี้ก่อน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2010 เมื่อ 11:10
|