เรือพระราชพิธี
แรกเริ่มเดิมที "เรือพระราชพิธี" นั้นหามีไม่ คงมีแต่เรือรบโบราณ ซึ่งใช้ในแม่น้ำและออกสู่ท้องทะเล ต่อมาการรบทัพจับศึกในแม่น้ำหมดสิ้นความสำคัญไปทีละน้อย เรือรบในแม่น้ำซึ่งเป็นเรือยาวทำด้วยไม้ ใช้ฝีพายล้วนเหล่านี้ จึงกลายมาเป็นเรือที่ใช้ในพระราชพิธีต่าง ๆ ที่พระมหากษัตริย์ไทยเสด็จฯ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคจนเท่าทุกวันนี้
ในประวัติศาสตร์การรบพุ่งของชาติไทยเรา อันมีราชธานีเก่าคือกรุงศรีอยุธยา ซึ่งแวดล้อมด้วยแม่น้ำลำคลองมากมาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เรือรบในแม่น้ำเป็นสำคัญ และในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ก็ทรงมียุทธวิธีที่จะรักษาพระนครโดยอาศัยกำลังทัพเรือ จึงทรงประดิษฐ์เรือไชยและเรือรูปสัตว์ขึ้น ต่อมาก็ยังประดิษฐ์เรือกราบขึ้นอีกชนิดหนึ่งด้วย เรือรบโบราณเหล่านี้ จึงแบ่งประเภทออกเป็น ๔ ชนิด คือ
เรือแซ เป็นเรือโบราณของไทยซึ่งใช้ในแม่น้ำ เหตุที่ชื่อ "แซ" นั่น เข้าใจว่ามาจากคำว่า "เช" หมายถึง แม่น้ำ เรือชนิดนี้ใช้ในการลำเลียงพล ศาสตราวุธ ยุทโธปกรณ์ เสบียงกรัง เป็นเรือที่แล่นค่อนข้างช้า
เรือไชย เป็นเรือที่ใช้ลำเลียงพล ศาสตรวุธ ยุทธโธปกรณ์ และเสบียง แล่นเร็วกว่าเรือแซ
เรือรูปสัตว์ เรือชนิดนี้จะทำหัวเรือเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ มีครุฑ พญานาค เป็นต้น ใต้รูปสัตว์ก็จะมีช่องวางปืนใหญ่ ใช้เป็นเรือปืนด้วย
เรือกราบ มีลักษณะคล้ายเรือไชย แต่แล่นเร็วกว่า
เรือรบโบราณของไทยเราที่ตกทอดมาเป็นเรือพระราชพิธีนี้ แม้จะสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อใช้ในการสงคราม แต่ก็เป็นเรือที่แกะสลัก ปิดทองเป็นลวดลายวิจิตรสวยงาม โดยเฉพาะหัวเรือและท้ายเรือจะเป็นส่วนที่สวยงามมาก บ้างก็เป็นรูปสัตว์ ยักษ์ และลิง ในวรรณคดีไทย ส่วนลำเรือนั้น ขุดจากซุงทั้งต้น ส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้ตะเคียน เรือบางลำทำจากต้นไม้ที่ใหญ่มาก เช่น เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ มีความยาวถึง ๔๔.๙๐ เมตร และความกว้าง ๓.๑๕ เมตร และเรือทุกลำล้วนใช้ฝีพายจำนวนมาก ในการแล่นเรือให้เคลื่อนไปอย่างคล่องแคล่วราวกับมีชีวิตชีวา
อย่างไรก็ดี เรือพระราชพิธี เป็นชื่อที่ใช้เรียกรวมถึงเรือชนิดต่าง ๆ ซึ่งใช้ประกอบในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยที่เรือเหล่านี้ล้วนแบ่งลักษณะหน้าที่ออกไปดังนี้ คือ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2012 เมื่อ 03:36
|