พระอาจารย์กล่าวว่า "พระผู้ใหญ่ เราต้องเห็นใจว่า ถ้าท่านมีงานหลวงที่สำคัญกว่า ท่านต้องไปที่นั้น อย่างหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำ อาตมาไปนิมนต์ท่าน เพื่อไปเจริญพุทธมนต์ฉันเพล ในงานทำบุญ ๘๐ ปีหลวงพ่อพระเทพเมธากร อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านดูแล้วก็บอกว่า ฉันเพลใช่ไหม ? กราบเรียนว่าใช่ครับ ท่านบอกว่า ผมมีสวดมนต์เย็นที่พระบรมมหาราชวัง ผมกลับทัน..จะไปให้ ลักษณะถ้ามีที่สำคัญกว่าแล้วท่านไปงานเราไม่ทัน ท่านก็จะไม่ไป
แบบเดียวกับที่อาตมาแนะนำบรรดาพระผู้ใหญ่ทางด้านกาญจนบุรีว่า "นี่คือท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล หรือท่านเจ้าคุณอนันต์ วัดท่าซุง อาจารย์ของผมเอง" พระผู้ใหญ่ท่านก็มักบอกว่า ทำไมไม่นิมนต์ท่านมางานวัดท่าขนุนบ้าง อาตมากราบเรียนท่านว่า ด้วยฝีตีนของคนขับรถอาตมา ที่เขาเรียกว่าบินแข่งนรก ยังใช้เวลา ๕ ชั่วโมงกว่าจะถึงวัดท่าซุง แล้วคนที่ไม่ได้ขับเร็วขนาดนั้นจะใช้เวลากี่ชั่วโมง สมมติว่าออกจากวัดท่าซุงตีห้า จะไปถึงท่าขนุนเลยเพล ไม่ต้องรับประทานกันหรอก เพราะฉะนั้น..อย่าให้ท่านต้องมาเสี่ยงชีวิตเพราะงานของผมเลย จึงไม่ได้นิมนต์
มีคนเขาสงสัยว่าลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง เวลาบวงสรวงก็เปิดเทปหลวงพ่อวัดท่าซุง ทำไมพระอาจารย์เล็กบรรเลงเองอยู่เรื่อยเลย ปัญหานี้ปกติเขาถามแล้ว อาตมาก็ตอบเป็นการส่วนตัวไป แต่เพื่อที่จะไม่ให้โยมเสียเวลามาถามอีกก็ขอบอกว่า
เมื่ออาตมาไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีปีแรก ทำบวงสรวง พอทันทีที่จะกดปุ่มเดินเครื่องซาวน์อะเบาท์ เพื่ออาศัยเสียงหลวงพ่อท่านบวงสรวง ก็ได้ยินเสียงหลวงพ่อจริง ๆ ได้ยินเสียงท่านดังเต็มหูเลยว่า เอ็งใช้ข้าจนตายแล้วยังจะใช้ต่ออีกหรือ ? สงสัยว่าหลวงพ่อท่านคงจะบอกทุกคนแหละ แต่คนอื่นเขาแกล้งไม่ได้ยิน บังเอิญอาตมาได้ยิน จึงกราบเรียนถามท่านว่า เวลาบวงสรวงต้องทำอย่างไรบ้างครับ ? หลวงพ่อท่านก็บอกวิธีการให้ อาตมาซักรายละเอียดเลยโดนด่า สรุปว่าทำตามที่ท่านบอกเท่านั้น..ห้ามถาม เพราะฉะนั้น..จงเลิกสงสัย
มีพระเกจิอาจารย์และญาติโยมหลายต่อหลายท่านถามว่า เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ถือว่าเป็นพระรุ่นใหม่ ยังหนุ่มอยู่แท้ ๆ ทำไมเสกวัตถุมงคลได้ขลังขนาดนี้ ? อาตมาบอกกับทุกรายเลยว่าไม่ได้เสกเอง ถึงเวลาอาตมาจะกราบขอบารมีพระท่านช่วยสงเคราะห์ กราบเรียนพระท่านว่า เคยสงเคราะห์หลวงพ่อวัดท่าซุงเท่าไร ผมก็ขอแค่นั้นครับ ขอนิดเดียว..อาตมาเป็นคนไม่โลภมาก ไม่ขอเยอะหรอก
วิธีการนี้พวกเราจะเอาไปใช้บ้างก็ได้ แต่ว่าขอยืนยันว่าอย่างน้อย ๆ เราต้องมีต้นทุนพอ คำว่ามีต้นทุนพอก็คือเวลาพระ หรือว่าหลวงปู่ หลวงพ่อท่านใช้งานอะไรเรา โปรดทำให้สำเร็จด้วย ถ้าทำให้สำเร็จอยู่บ่อย ๆ เดี๋ยวต้นทุนของเราจะพอเอง พอต้นทุนพอ ถ้าอยากให้ท่านสงเคราะห์อะไรท่านก็จะสงเคราะห์ให้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-04-2013 เมื่อ 12:00
|