สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด บุญกับบาป
๑.สังสารวัฏและการเวียนว่ายตายเกิด
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน สังสารวัฏได้แก่อะไร
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร ได้แก่การเวียนเกิดเวียนตาย
ม. พระคุณเจ้าจงหาตัวอย่างมาเปรียบเทียบ
น. เหมือนชาวสวนปลูกมะม่วงไว้ ครั้นมะม่วงออกผลก็เก็บมารับประทาน
เสร็จแล้วก็เอาเมล็ดนั้นเพาะปลูกใหม่ ถึงคราวเกิดผล ก็นำมารับประทานแล้วปลูกใหม่ต่อ ๆ ไปอีก
สังสารวัฏก็มีอาการหมุนเวียนเช่นนั้น คือนับแต่เราเกิดมาเป็นนามรูป เราก็ตั้งต้นเพาะความดีความชั่ว
เป็นตัวบุญ ตัวบาปขึ้นเป็นเหตุ แล้วเราก็ต้องรับผลของความดีความชั่วนั้น
ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นกับอำนาจบาปบุญ ทั้งนี้ ผลที่เราได้รับอาจจูงใจให้เราเพาะเหตุต่อไปอีก
เหมือนคนรับประทานผลมะม่วงแล้วก็นำเมล็ดไปเพาะเป็นต้นหมุนเวียนต่อไปไม่รู้จบสิ้น (สังสารวัฏปัญหา)
ม. อะไรเป็นเหตุให้นามรูปต้องเกิดต่อไปอีกนาน
น. เหตุที่ทำให้นามรูปต้องเกิดต่อไปอีกนานก็คือ ความไม่รู้แจ้งเห็นจริงในอริยสัจ ๔ กล่าวคือ
ไม่รู้ว่าอะไรเป็นทุกข์ อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อะไรเป็นความดับทุกข์ อะไรเป็นทางให้ถึงความดับทุกข์
แม้จะรู้สิ่งเหล่านี้โดยพิจารณาเห็นในชั่วขณะหนึ่ง ๆ ก็ยังเรียกว่าไม่รู้จริง เพราะความรู้นั้นมิได้ประจำจิตอยู่ตลอดเวลา
เมื่อไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ คนและสัตว์ทั้งหลายจึงทำบุญและบาป เป็นเหตุให้กิดปฏิสนธิวิญญาณ ซึ่งเปรียบเหมือนรากแก้วของต้นไม้
ทำให้เกิดนามรูปซึ่งแตกกิ่งก้านเป็น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทำหน้าที่เป็นประตูรับอารมณ์ ๖
นอกจากนี้ เมื่อไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ ก็ให้ยึดสิ่งต่าง ๆ เอาว่าเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา
เมื่อประสบสิ่งชอบใจ รู้สึกยินดีก็เกิดความติดใจ เมื่อประสบสิ่งแสลงใจ รู้สึกทุกข์ ก็เกิดความปรารถนาจะหลีกหนีไปให้พ้น
จึงเป็นเหตุให้เกิดการดิ้นรนแสวงหารวมทั้งยึดถือในอุบายที่จะช่วยให้ตนสมประสงค์ในการได้มาหรือหลีกหนีไป ก่อเป็นกุศลและอกุศลหนุนเนื่องให้เกิดเป็นนามรูปต่อไปอีก
ขอถวายพระพร ตราบเท่าที่ยังไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ ตราบนั้นนามรูปก็ยังคงปรากฏมีอยู่เช่นนี้
โดยการเกิดดับ ๆ ของนามรูปที่ล่วง ๆ มาแล้วนั้น นานจนเบื้องต้นไม่ปรากฏ (อัทธานปัญหาและปุริมโกฏิปัญหา)
ม. ความยาวนานของการเวียนเกิดเวียนตายเท่ากันหมดในหมู่คนและสัตว์ทั้งหลายหรือ
น. บางพวกก็นาน บางพวกก็ไม่นาน
ม. พวกไหนนาน พวกไหนไม่นาน
น. ผู้มีกิเลสคือเครื่องทำใจให้หมองอยู่ จะต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปอีกนาน ส่วนท่านที่บั่นทอนกิเลสซึ่งเป็นเหตุทำให้ยืดยาวนั้นลงได้บ้าง
ก็ย่นเวลาเกิดเวลาตายข้างหน้าให้สั้นเข้าได้ (ทีฆมัทธานปัญหา)
ม.ช่างล้ำลึกจริง
|