ดูแบบคำตอบเดียว
  #29  
เก่า 13-12-2010, 01:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,040 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างตัวผม ตัวโลภอาจจะตัดง่ายมาก
ตอบ : เราก็ตัดโลภด้วยการให้ทานไปเรื่อย ๆ พอตัวอื่นโผล่หน้ามาก็ต่อสู้ไปด้วยไป เพียงแต่ว่าต้องงัดกรรมฐานคู่ศึกมาดวลให้ทันก็แล้วกัน

ถาม : แต่พอทำไป รู้สึกว่าไม่สนใจคนที่บ้าน กลายเป็นว่าโดนกิเลสกิน เรานึกเสียใจ
ตอบ : มีอะไรให้เสียใจ ถ้าเราไม่ได้เริ่มทำเราอาจจะไม่มีปัญญารู้เท่าทันเลยก็ได้ แต่นี่เราทำไปแล้ว บารมีที่เราสั่งสมมาในทาน ในศีล สมาธิ ปัญญา ของเราก็เริ่มส่งผลให้เรามีปัญญา รู้เห็นว่าสิ่งนี้ยังไม่ดีจริง เราค่อยเอาไปปรับปรุงแก้ไข ถ้าไม่ได้ลงมือทำก็ไม่รู้ว่าผิดถูกอยู่ที่ไหน

ถาม : ตอนที่ทำทานไป ไม่ได้มีเมตตากรุณาเลย หวังจะตัดความโลภอย่างเดียว อานิสงส์จะมีไหมครับ ?
ตอบ : ในสิ่งที่เราทำ อันดับแรก ต้องมีปัญญาก่อน รู้ว่าดีเราจึงทำ อานิสงส์นี้ได้แน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ถ้าจะเอาให้กว้างไกลขึ้น ก็ควรจะให้อยู่ในลักษณะของพรหมวิหาร มีเมตตากรุณา มุทิตา แล้วถึงจะมีอุเบกขา

พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำทั้งทีให้ได้มากที่สุด ลงทุนทำทั้งทีก็อย่าให้ได้บุญน้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2010 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา