เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เรื่องที่อยากจะบอกกล่าวกับพวกเราในวันนี้ก็คือ การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นเรื่องของบุคคลที่ทรงปรมัตถบารมี ก็คือกำลังใจที่เข้มข้นสูงสุด
ถ้าหากว่าเป็นสามัญบารมีหรือบารมีต้น เราให้ทานได้ แต่รักษาศีลหรือเจริญภาวนาไม่ได้ ถ้าเป็นอุปบารมีหรือบารมีขั้นกลาง เราให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่เจริญภาวนาไม่ได้ ต้องเป็นปรมัตถบารมี คือ กำลังใจระดับสูงสุดเท่านั้น ถึงจะให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาได้
บุคคลที่เจริญภาวนานั้น ก็ใช่ว่าจะสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลกันได้ทุกคน เพราะว่าการจะเข้าถึงมรรคผลนั้น เราต้องรู้กฎเกณฑ์กติกาว่า จะปฏิบัติอย่างไรให้เข้าถึงมรรคผล และในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีใจรักในพระนิพพานเป็นปกติ
ดังนั้น...ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติเพื่อพระนิพพานเป็นปกติ นอกจากกำลังใจท่านจะอยู่ในระดับปรมัตถบารมีแล้ว ยังเป็นกำลังใจที่เข้าถึงมรรคผลได้ทุกคน เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายได้ละทิ้งโอกาสนั้นไปหรือเปล่า ? เพราะว่าการปฏิบัติเท่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้น เรายังไม่ได้ทำกันอย่างจริงจังเลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2016 เมื่อ 20:20
|