ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 06-05-2009, 11:07
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,345 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default อดีตที่ผ่านพ้นตอนที่ ๓๑ : อานุภาพศีล ๘

๓๑. อานุภาพศีล ๘

มีฤๅษีหมู่หนึ่งเดินทางมาจากป่าหิมพานต์ (แฮ่...อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้…!) เพื่อมาเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดอาการเหนื่อยล้าเต็มที เมื่อถึงทางแยกเมืองสาวัตถี จึงพากันหยุดพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ขึ้นอยู่ตรงทางแยกนั่นเอง...

เห็นต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มเป็นที่เย็นสบาย หัวหน้าฤๅษีก็คิดว่า ต้นไม้ใหญ่โตขนาดนี้ต้องมีรุกขเทวดาอาศัยอยู่ เรามาเหนื่อยแทบตาย ซ้ำกระหายน้ำอีกต่างหาก ถ้าเทวดาจะเมตตาบันดาลน้ำมาให้ดื่มกันสักหน่อยคงจะดี… (เล่นง่ายดีเนอะ...) คิดเพียงเท่านั้น พลันก็ปรากฏภาชนะบรรจุน้ำใสสะอาดเต็มเปี่ยม ขึ้นที่เบื้องหน้าฤๅษีทั้งหลายเป็นที่น่าอัศจรรย์ ทั้งนี้เกิดจากอานุภาพรุกขเทวดาที่อาศัยอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่นั้น พอทราบความคิดของหัวหน้าฤๅษี ก็บันดาลให้มีขึ้นทันใด

ฟาดกันไม่ต้องฟังเสียงล่ะ พอสิ้นความกระหายก็คิดต่อไปว่า พวกเราเดินทางมาไกล ร่างกายสกปรกมอมแมม เมื่อรุกขเทวดาบันดาลน้ำให้ดื่มได้ ก็น่าจะบันดาลน้ำสำหรับอาบให้แก่พวกเราได้เช่นกัน (น่าน...เอาซะให้คุ้ม) ทันใดนั้นก็ปรากฏสระโบกขรณีขึ้น ให้เหล่าฤๅษีได้อาบอย่างสำราญใจ (น่าจะมีนวดแถมซะให้เข็ด…!) พอร่างกายสบาย ใจก็อยากต่อไม่สิ้นสุด เลยคิดต่อไปว่า น้ำดื่มน้ำอาบก็มีแล้ว อีนี่ฉานหิวนะนาย...มีอะไรให้ฤๅษีกินบ้างละนายจ๋า…!

รุกขเทวดาก็พี่มีแต่ให้จริง ๆ ..บันดาลให้ต้นไม้เกิดผลสะพรั่งไปทั้งต้น (ไม่ยักเป็นโต๊ะจีนแฮะ...) เหล่าพวกฤๅษีกินอิ่มแล้วเกิดอยากเห็นเทวดา จึงตั้งความปรารถนาขอพบซักหน่อย รุกขเทวดาก็สุดเขินจึงบันดาลให้ปรากฏเฉพาะเสียงว่า... “ข้าแต่ท่านผู้ทรงศีล ข้าพเจ้าเป็นผู้ประกอบด้วยบุญญาธิการน้อยนิด มีความละอายเป็นที่ยิ่ง ไม่กล้าปรากฏขึ้นต่อหน้าท่านทั้งหลาย” แม้ว่าผู้น้อยมิบังอาจ เหล่าฤๅษีก็อ้อนวอนจนใจอ่อน แสดงกายทิพย์ขึ้นเฉพาะหน้า ประกอบด้วยรัศมีกายเป็นที่สว่างรุ่งเรืองยิ่งนัก… (แอ่น...แอ๊น....!)

หัวหน้าฤๅษีจึงถามว่า “เทวะ...ดูก่อน เทวดา ท่านมีฤทธานุภาพเป็นที่น่าอัศจรรย์ ทั้งสว่างรุ่งเรืองไปด้วยรัศมี ขอถามว่าท่านนี้ทำบุญมาด้วยสิ่งใด จึงมีศักดานุภาพใหญ่เห็นปานนี้” รุกขเทวดาประคองอัญชลีตอบต่อฤๅษีทั้งหลายว่า... “ข้าแต่ท่านผู้ทรงศีล กล่าวไปแล้วเป็นที่ละอายยิ่ง บุญญานุภาพของข้าพเจ้านี้ เกิดด้วยผลการรักษาศีล ๘ เพียงครึ่งวัน...” แล้วรุกขเทวดาจึงเล่าบุรพกรรมให้ฤๅษีได้ทราบดังนี้

ชาติก่อนข้าพเจ้าเป็นคนเข็ญใจ ไปขอทำงานกับท่านสุทัตตเศรษฐี ผู้มีอีกนามหนึ่งว่าอนาถปิณฑิกเศรษฐี ขอเพียงมีอาหารวันละ ๒ มื้อ แลกกับแรงงานก็เป็นที่พอใจ ท่านเศรษฐีผู้มีใจกรุณา รับข้าพเจ้าไว้เป็นคนรับใช้ทั่วไป... วันนั้นเป็นวันอุโบสถ ข้าพเจ้าไปตัดฟืนในป่าตั้งแต่เช้า กลับมาก็เลยเที่ยงไปแล้ว จึงตรงไปขออาหารที่โรงครัว เห็นภายในโรงครัวเงียบสนิท ปราศจากคนพลุกพล่านเช่นวันก่อน จึงถามแม่ครัวว่า “นี่แน่ะแม่...วันนี้ไฉนจึงเงียบนัก อาหารส่วนของข้าพเจ้าอยู่ไหนเล่า...?” แม่ครัวตอบว่า “นี่แน่ะท่านผู้เจริญ.... วันนี้เป็นวันอุโบสถ ทุกคนในบ้านนี้แม้แต่ทารกเพิ่งอดนม จะบ้วนชำระปากให้สะอาด ตั้งใจรักษาอุโบสถศีล เว้นอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงไปแล้ว ท่านเป็นผู้มาใหม่ยังไม่ทราบระเบียบข้อนี้ ข้าพเจ้าจักรีบประกอบอาหารเพื่อท่าน...” ข้าพเจ้ารับฟังเป็นที่อัศจรรย์ใจ คิดว่าอุโบสถศีลนี้เป็นไฉนหนอ...? บุคคลในบ้านท่านเศรษฐีจึงพร้อมใจกันสมาทานรักษา แม้แต่ทารกเพิ่งอดนมยังประกอบด้วยศรัทธาเห็นปานนี้ จึงยับยั้งแก่แม่ครัวว่า “นี่แน่ะแม่...จงงดการประกอบอาหารไว้ก่อน ข้าพเจ้าจักรักษาศีลเช่นเดียวกับพวกท่านบ้าง...” ว่าดังนั้นแล้ว ข้าพเจ้าจึงไปหาท่านเศรษฐี ศึกษาในอุโบสถศีลแล้ว มีใจอันผ่องแผ้ว ตั้งใจสมาทานรักษา...

ข้าแต่ท่านผู้ทรงศีล ข้าพเจ้าเป็นผู้ทำงานหนัก ไม่มีอาหารตกถึงท้องมาทั้งวัน ตกดึกลมกำเริบขึ้น ข้าพเจ้าทนไม่ไหว ได้ทำกาละคือตายไป มาเกิดเป็นรุกขเทวดา สิงสถิตย์ที่ต้นไม้ใหญ่นี้ อานุภาพทั้งหมดที่ท่านเห็น เป็นอานิสงส์ของอุโบสถศีลครึ่งวันดังกล่าวมาแล้ว...” นั่นเป็นเรื่องที่มีมาในพระไตรปิฏก อ่านแล้วแปลไทยเป็นไทยเอาเองก็แล้วกัน เขียนแบบธรรมดาเดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่เก่ง เล่นสำนวนให้เวียนหัวซะอย่างนั้นแหละ ทีนี้จะกล่าวถึงอานุภาพศีล ๘ ที่อาตมาพบมาเองบ้าง (เข้าเรื่องซะที อู้มานานแล้ว....!)

คืนหนึ่งที่บ้านสายลม หลังกรรมฐานแล้ว หลวงพ่อเมตตาเล่าว่า “พระท่านมาบอกว่า คนที่มาเจริญกรรมฐานในคืนนี้ทั้งหมด มีอยู่ ๗๐ คนที่รักษาศีล ๘ ได้...” เรื่องแบบนี้อาตมาไม่เคยล้าหลังใครอยู่แล้ว จึงทึกทักว่า “ข้าคือหนึ่งในจำนวนนั้น...!” เมื่อมั่นใจก็เอาเลย ตั้งใจรักษาศีล ๘ ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นไป ขากลับบ้านอาศัยรถของน้าโชค คุณประสพโชค ปัจฉิมางกูร เพราะไปทางเดียวกัน น้าโชคชวนกินข้าวก่อน อาตมายอมเสียมารยาทปฏิเสธการเลี้ยง แล้วเดินกลับบ้านเอง (กลัวเสียไม่ได้นะซี้…!)

กราบขอบารมีพระ... “ด้วยอานุภาพศีล ๘ ที่ลูกตั้งใจรักษา ขออย่าให้ร่างกายมีความกระวนกระวายใด ๆ เลย...สาธุ” พอหลังเที่ยงวันรุ่งขึ้นมันเหมือนกับคอหอยตัน กินอะไรไม่ได้นอกจากน้ำ ตั้งแต่นั้นมาก็เป็นแบบนี้ทุกวัน เลยรักษาศีล ๘ ได้อย่างสบาย ๆ ...

๔ มีนาคม ๒๕๒๒
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 06-05-2009 เมื่อ 11:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา