ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-12-2011, 08:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อครู่นี้ลองให้ท่านกวาง* จับชีพจรดู ท่านว่าแทบจะคลำหาไม่เจอ เพราะว่าถ้ากำลังใจของเราทรงตัว ชีพจรจะเต้นช้าลงโดยอัตโนมัติ ถ้าหากว่าทรงตัวถึงที่สุดจะหาไม่เจอเลย ชีพยังทำงานอยู่ แต่ว่าเหมือนกับคนตาย

ผมเคยให้ท่านเผื่อน**กับท่านน้อย***จับชีพจรซ้ายขวา แล้วเดินคุยกันไปเรื่อย พักหนึ่งสองคนก็หัวเราะ บอกว่า “ไม่เต้นเลยครับอาจารย์..!” “เออ..พวกคุณกำลังคุยกับผีอยู่ ผีตายแล้วยังคุยกับคุณได้..!”

ที่พูดนี้เพื่อที่จะให้พวกเรามั่นใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำได้จริง ๆ อย่างที่ชีปุ๊ก บอกว่า “ทุกอย่างดับไปเลยค่ะ..หลวงพ่อ” ที่ดับไปเลยก็คือ ความรู้สึกทั้งหมดตัดไปจากร่างกาย ไม่รับรู้อาการต่าง ๆ ที่เกิดกับร่างกาย

ในเมื่อจิตกับประสาทแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ก็อยู่สภาพเหมือนกับคนตายดี ๆ นี่เอง ที่สมัยไปอยู่วัดท่าขนุน**** ใหม่ ๆ ผมโดนบรรดาแม่ชีเขายำใหญ่ เล่นเอาผมเละเป็นโจ๊กไปเลย เพราะพวกเขาคิดว่าผมตายไปแล้ว

ตอนนั้นเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคมาเลเรียจนทนไม่ไหว ผมก็ต้องทิ้งสังขารชั่วคราว พวกเขาคิดว่าผมตาย เลยช่วยกันเอาผ้าชุบน้ำร้อน ขอยืนยันว่าน้ำร้อน ถูกันใหญ่ ละเลงกันใหญ่ ตื่นขึ้นมาตอนตีสองกว่า แสบไปทั้งตัว..!

ตั้งแต่นั้นมา ผมจำเป็นต้องใช้พวกครีมอยู่เรื่อย ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วเวลาอากาศเย็นจะคันมาก โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในห้องปรับอากาศ เพราะว่าน้ำมันที่เลี้ยงผิวโดนน้ำร้อนถลกไปเกลี้ยงเลย..!

เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ เพราะเป็นแค่ฌานโลกีย์เท่านั้น แต่ว่าโลกียฌานนี้ ถ้าสภาพของร่างกายไม่ดี หิวมาก ๆ เหนื่อยมาก ๆ ง่วงนอน เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ไม่ค่อยจะเอากับเราด้วย

ถึงได้บอกให้ทุกคนตั้งใจรักษากำลังใจ ชนิดที่เรียกว่า จะทรงฌานเมื่อไรเราต้องเข้าได้ทันที ถ้าไม่สามารถจะทำอย่างนั้นได้ก็จะลำบาก พอถึงเวลาเราฟุ้งซ่าน ควบคุมกำลังใจไม่ได้ ก็จะฟุ้งไปเรื่อย กว่าจะดึงกลับได้ก็นาน


หมายเหตุ :
*พระสมุห์กำพร สุชาโต สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี หมู่ที่ ๕ ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

**พระปลัดเผื่อน สุธมฺมสิริปญฺโญ สำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ หมู่ที่ ๓ ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

***พระครูสังฆรักษ์วิฑูรย์ จนฺทวํโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

****วัดท่าขนุน เลขที่ ๒๓๕ หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2011 เมื่อ 10:19
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา