ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 01-03-2011, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,705 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเอาไม่อยู่ เราก็ต้องมีตัวช่วย คาถาบทนี้ที่ช่วยได้ พระพุทธเจ้าทรงประทานมา ลองเอาไปภาวนาดู สำหรับผมเอง ถ้ารู้สึกว่าใจคอเริ่มแกว่ง ภาวนา ๓ ครั้ง ๕ ครั้ง ก็ทรงตัวแล้ว พวกเราเองถ้าเอาไม่อยู่ ก็ภาวนาสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ พอกำลังใจทรงตัวแล้ว เราค่อยไปภาวนาอย่างอื่นแทน

ไหน ๆ ก็พูดถึงเรื่องของคาถาแล้ว คำว่า“คาถา”นั้น มีรากศัพท์มาจากบาลีว่า “กถา” แปลว่า วาจาเป็นเครื่องกล่าว หมายความว่า คำพูดทุกอย่างก็คือคาถา

แต่คาถาในความรู้สึกหรือว่าเข้าใจของพวกเรานั้น เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ ที่จะบันดาลผลให้ผู้ที่ท่องบ่นภาวนาได้ ถ้าจะนับอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าให้ส่วนของคาถานี้ จะว่าไปแล้วเป็นไสยศาสตร์

คำว่าไสยนั้นตรงข้ามกับพุทธ “ไสยะ”แปลว่า“หลับ” ส่วน“พุทธะ”แปลว่า“ตื่น” ไสยศาสตร์ คือ ความรู้ที่ยังไม่พ้นจากการหลับ ส่วนพุทธศาสตร์ คือ ความรู้ที่ทำให้เราตื่น แต่โบราณาจารย์ท่านเก่ง ท่านให้เราภาวนาเกี่ยวกับไสยศาสตร์จนจิตเคยชิน พอชินกับสิ่งเหล่านี้แล้ว เมื่อเปลี่ยนมาปฏิบัติกรรมฐานตามแบบของพุทธศาสตร์ ก็จะทำได้ดี แล้วก็ง่ายกว่า

ดังนั้น..ถ้าหากใครเขาว่า เราปฏิบัติหรือว่าทำในเรื่องของไสยศาสตร์ ให้ยอมรับไปเลย หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ของผม ท่านทำอย่างนี้มาตลอด ตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้ เริ่มต้นที่ไสยศาสตร์จบลงที่พุทธศาสตร์ ไม่ใช่เริ่มที่ไสยศาสตร์ แล้วออกทะเลกลับไม่เป็น

การที่เราจะใช้คาถาให้ได้ผล อย่างน้อยจิตต้องทรงตัวเป็นอุปจารฌานขึ้นไป ก็แปลว่าเกือบจะถึงปฐมฌาน แล้วต้องมีความแน่วแน่มั่นคง จิตที่จดจ่อแน่วแน่นั่นแหละ จะเป็นตัวบันดาลให้เป็นไป

คาถานั้นเกิดขึ้นมา ๓ แบบด้วยกัน
แบบที่ ๑ คือ พระพุทธเจ้าท่านประทานให้
แบบที่ ๒ คือ พรหม เทวดาหรือว่านางฟ้า ท่านบอกให้
แบบที่ ๓ คือ บุคคลที่ได้อภิญญาผูกคาถาขึ้นมา แล้วอธิษฐานทับด้วยอำนาจอภิญญาของท่าน

ทั้ง ๓ วิธีนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม ถ้าเราใช้คาถาตามแบบที่ว่ามา กำลังของท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะส่งมาช่วย ในเมื่อกำลังท่านส่งมาช่วย คาถาจะได้ผลง่ายขึ้น ตัวเราก็ออกแรงแค่ครึ่งเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2011 เมื่อ 02:33
สมาชิก 102 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา