ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 17-09-2010, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,512
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราเห็นโทษแล้วว่าการละเมิดศีลนั้นมีโทษอย่างไร พี่น้องชาวไทยที่ประสบอุทกภัย และชาวโลกที่ประสบอุทกภัยเดือดร้อนอย่างไรก็เห็นอยู่

ขณะเดียวกันเราก็รู้ดีว่าคุณของศีลนั้นเป็นอย่างไร เป็นพื้นฐานให้ความดีทุกประการตั้งมั่น เป็นเครื่องนำมาซึ่งโลกียทรัพย์และโลกุตรทรัพย์ และเป็นบันไดให้เราก้าวล่วงไปสู่พระนิพพาน

เราทุกคนจึงจำเป็นต้องรักษาศีล การที่เรารักษาศีลควบกับการเจริญสมาธิ ก็เพื่อว่า เมื่อเราเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ สมาธิจะทรงตัวตั้งมั่นได้ง่าย เมื่อสมาธิทรงตัวตั้งมั่น ก็เอากำลังนั้นกลับไประมัดระวังรักษาศีลอีกครั้งหนึ่ง

ถ้าสติสมาธิแหลมคมว่องไว แค่เราขยับ จะคิด จะพูด จะทำอะไรก็ตาม จิตจะบอกเลยว่าเราจะละเมิดศีลหรือไม่ ศีลเราจะขาดจะพร่องหรือไม่ แล้วเราก็จะเลี่ยงด้วยการไม่ไปละเมิดศีล แล้วไปคิด ไปพูด ไปทำ ในส่วนที่สามารถทำให้ศีลเจริญบริบูรณ์ได้


ศีลนอกจากจะเป็นมนุษย์สมบัติ คือบุคคลที่จะเกิดเป็นมนุษย์ได้อย่างน้อยจะต้องมีศีล ๕ เป็นเครื่องรองรับ ยังเป็นสวรรค์สมบัติ บุคคลที่รักษาศีลสมบูรณ์บริบูรณ์มีโอกาสเกิดเป็นนางฟ้า เกิดเป็นเทวดาได้ง่าย

ถ้าหากว่ารักษาได้ถึงขนาดว่ากำลังใจทรงตัวตั้งมั่น เป็นฌานในสีลานุสติ ก็เกิดเป็นพรหมได้ ในขณะเดียวกัน ถ้าหากว่ากำลังของศีลของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์จริง ๆ ส่งผลให้เราก้าวเข้าสู่ความเป็นพระอริยเจ้าได้โดยง่าย

โดยการพิจารณาให้เห็นว่า แม้การรักษาศีลนี้จะส่งผลดีแก่เราโดยส่วนเดียวก็จริง แต่ถ้าหากว่ายังต้องเวียนตายเวียนเกิดในภพภูมิต่าง ๆ ก็ยังมีทุกข์มีโทษ ก็คือเกิดความทุกข์อยู่ได้ในทุกครั้งที่เราเกิด

เมื่อจิตใจเห็นโทษของการเวียนว่ายตายเกิด เกิดความเบื่อหน่าย จิตจะถอนออกมาจากความรัก ความพอใจที่จะเวียนตายเวียนเกิด ก็คือไม่เห็นความดีของร่างกายนี้ ไม่เห็นความดีของโลกนี้ ไม่เห็นความดีของเทวโลก พรหมโลก เพราะว่ายังไม่สามารถที่จะล่วงพ้นความทุกข์ได้อย่างแท้จริง

ให้เอาจิตสุดท้ายของเราเกาะพระนิพพานไว้ จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ แต่ให้จิตของเรารู้ว่าขณะนี้เราเป็นผู้บริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยศีล ถ้าหากว่าชีวิตนี้สิ้นไป เราขอมีพระนิพพานเป็นที่ไปแห่งเดียว

แล้วกำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจเข้า อยู่กับลมหายใจออก อยู่กับคำภาวนา หรืออยู่กับภาพพระหรือพระนิพพานของเรา ให้ทุกคนกำหนดกำลังใจเช่นนี้ไว้เรื่อยไป จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกหมดเวลา


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2010 เมื่อ 03:05
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา