หลวงตา : เมื่อครู่อาจารย์เล็กไล่หลวงตาไปพัก เดี๋ยวจะไปแล้ว ก่อนจะไปก็ขอกล่าวถึงพระคุณครู คือพ่อของเรา ซึ่งขอกล่าวแทนลูก ๆ ทุกคน ญาติโยมทุกคนว่า ที่วัดเขาวง หลวงตาจะสร้างวัดแบบให้มีแต่ธรรมชาติ เหมือนกับสร้างที่ให้พระคุณพ่อท่านไปดูงาน ไปพักผ่อน ตรงนั้นก็จะเป็นจุดที่หลวงตาสร้างรูปหลวงพ่อซึ่งนั่งบนก่อนก้อนหินนะ นั่งอิริยาบถสบาย
พระอาจารย์เล็ก : รูปนั้นหลวงพ่อนั่งที่บ้านคุณประชา สิกขวานิช ที่บางนา นั่งบนม้าหินยาว ๆ แต่คราวนี้หลวงตาท่านอาศัยคอมพิวเตอร์ตัดออกมา แล้วไปใส่บนก้อนหินตามความชอบใจของท่าน
หลวงตา : หลวงตาก็นึกกลอนได้กลอนหนึ่ง เขียนแก้ไม่ได้เลยนะ จะเติมจะตัดไม่ได้เลย เขียนถึงพ่อ เขียนแล้วก็นั่งร้องไห้ ทุกวันนี้ถือว่ารูปภาพนั้นคือกลอนจากใจของพวกเราทุกคนวันนี้ว่า หลวงพ่อท่านเหน็ดเหนื่อยเพื่อเรามานาน บัดนี้ท่านพักแล้ว เหลือเรากระโดกกระเดกตามท่านไป กลอนอันนั้นมาจากใจพวกเราทั้งหลายว่า
พ่อเอย... พ่อนั่งพัก
พ่อเหนื่อยมานานนัก สิบหกอสงไขย
พ่อนำลูก เดินทางมายาวไกล
พ่อถึงหลักชัย ลูกจะทยอยติดตาม
ถ้าทำเพื่อตนเอง พ่อจบไปนานแล้ว
แต่พ่อแก้ว ทำเผื่อลูกน้อยที่ตามหลัง
ลูกซาบซึ้งน้ำใจ... พ่อเอยพ่อจงฟัง
ต่อนี้ไปลูกจะทำบ้าง พ่อเอย..พ่อนั่งดู
พระอาจารย์เล็ก : ตรงนี้ผมไม่ได้สัญญานะ เอาเป็นว่าพอสมควรนะ เพราะว่าธาตุขันธ์หลวงตานี่คนอายุขึ้น ๗๐ ไม่ไหวแล้ว
หลวงตา : ๗๓ แล้ว
พระอาจารย์เล็ก : ๗๓ แล้ว หลวงตาท่านยืนยัน กลัวจะแก่น้อย อาตมาเอง ๕๖ เป็นอันว่าแย่พอ ๆ กันแล้ว เนื่องจากสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้มาก ขออนุญาตหลวงตาท่านพักผ่อนก่อนที่จะฉันเพลสักนิดหนึ่งนะจ๊ะ
-----------------------------------
จบพูดถึงพ่อช่วงเช้าเพียงเท่านี้ค่ะ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2015 เมื่อ 12:02
|