ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 05-07-2018, 21:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลำดับต่อไป เมื่อลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาเริ่มทรงตัวแล้ว ก็ให้ทุกคนตั้งใจแผ่เมตตาไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ตั้งใจว่าเราไม่เป็นศัตรูกับใคร เรายินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วโลก การแผ่เมตตาทำให้สภาพจิตของเราชุ่มชื่น เยือกเย็น ไม่รู้สึกแห้งแล้ง ทำให้อยากที่จะปฏิบัติธรรม

เมื่อแผ่เมตตาจนกำลังใจทรงตัวดีแล้ว ก็ให้กำหนดภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักชอบมากที่สุด เอาไว้บนศีรษะของเรา หันหน้าไปทางเดียวกับเรา จะมีขนาดสีสันอย่างไรอยู่ที่เราชอบใจ หายใจเข้าให้ภาพพระเลื่อนลงไปในท้อง หายใจออกให้ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ ใหม่ ๆ อย่าเพิ่งไปเอาความชัดเจน ความชัดเจนจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อสมาธิเราทรงตัวมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แรก ๆ ให้สามารถนึกได้ว่ามีภาพพระอยู่บนศีรษะของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ทำได้เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

เมื่อภาพพระชัดเจนสว่างไสวเพียงพอแล้ว ก็ยกเอาหัวข้อธรรมต่าง ๆ มาพินิจพิจารณา ก็คือดูให้เห็นว่า สภาพร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี ของวัตถุธาตุสิ่งของต่าง ๆ ก็ดี มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ เกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ระหว่างดำรงชีวิตอยู่ก็เต็มไปด้วยความทุกข์ คือ ทุกข์ของการเกิด ทุกข์ของการแก่ ทุกข์ของการเจ็บ ทุกข์ของการตาย ทุกข์ของการพลัดพรากของรักของชอบใจ ทุกข์ของการปรารถนาไม่สมหวัง ทุกข์ของการกระทบกระทั่งอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ เป็นต้น

และร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา เพราะว่ารวมขึ้นมาจาก ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้เป็นส่วนที่เราอาศัยอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อถึงเวลาก็ตายพังไป เราก็ต้องไปหาร่างกายใหม่ตามบุญตามกรรมที่เราสร้างมา ถ้าไม่นิยมการเกิด สภาพจิตสลัดถอนการยึดมั่นถือมั่นออกไปได้ เราถึงจะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

ให้ทุกคนหยิบยกข้อธรรมต่าง ๆ ขึ้นมาพิจารณา หลังจากที่กำลังใจของเราภาวนาจนทรงตัวแล้ว ถ้ารู้สึกว่าการพิจารณาไม่ชัดเจน ก็ให้กลับมาหาภาพพระ กลับมาหาลมหายใจของเราใหม่ ทำสลับกันไปสลับกันมาดังนี้ จนกระทั่งสภาพจิตยอมรับจริง ๆ ว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ก็เอาจิตเกาะภาพพระไว้เป็นจุดสุดท้าย ตั้งใจว่านั่นคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านเท่ากับเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วก็ตั้งหน้าภาวนาพิจารณาไป จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2018 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา