"ดังนั้น..การที่พวกเราได้ปฏิบัติธรรม อาจจะระยะเวลาหลายปี แต่ก็ให้รู้ว่าพวกเราไม่ได้ลำบากยากเข็ญขนาดท่าน ไม่ได้อด ๆ อยาก ๆ เป็นเวลา ๒๐-๓๐ ปี อยู่ในป่าในเขาอย่างท่าน ความลำบากที่เราทำยังไม่ได้ ๑ ใน ๑๐๐ ของท่านเลย
เพราะฉะนั้น..ควรจะใช้ความพยายามให้มากกว่านี้ ยิ่งใครที่รู้ตัวว่าปฏิบัติมานานเป็นสิบปีขึ้นไปแล้วยังไม่ได้อะไร ขอให้รู้ว่าความเพียรของเรายังบกพร่อง แสดงว่ายังไม่เอาจริง ถ้าเอาจริง ๑๐ ปีนี่ต้องเห็นหน้าเห็นหลังแล้ว อย่างน้อย ๆ เรื่องของฌานสมาบัติต้องได้คล่องตัวแล้ว
แต่ส่วนใหญ่อยู่ในประเภททำ ๆ ทิ้ง ๆ ถึงเวลาภาวนาอารมณ์ใจทรงตัวอย่างดีเลย ลุกขึ้นมาก็กองทิ้งไว้ตรงนั้น ไม่เคยเก็บมารักษา เราปฏิบัติอยู่ก็เหมือนกับว่ายทวนน้ำ พอถึงเวลาเราก็ปล่อยให้ลอยตามน้ำไป พอมานั่งปฏิบัติใหม่ก็ว่ายทวนน้ำใหม่ จึงกลายเป็นคนขยัน ทำงานทุกวันแต่ผลงานไม่มี นาน ๆ ไป จะท้อใจแล้วเลิกทำเสียด้วยซ้ำ
ถ้าเกิดเป็นมิจฉาทิฏฐิขึ้นมาจะน่ากลัวมาก น่ากลัวตรงที่ว่าตัวเองทำมานานแล้วไม่ได้ผล อาจจะไปประกาศกับคนอื่นว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่จริง ทำแล้วไม่เห็นได้อย่างที่ว่าเลย ก็จะไปกันใหญ่ จะมีอเวจีมหานรกรอเราอยู่..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-02-2019 เมื่อ 01:08
|