ดูแบบคำตอบเดียว
  #96  
เก่า 25-11-2010, 22:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลังจากที่มีนิกายมูลวาสติวาทเกิดขึ้น ก็มีการตีความพระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่างไปจากของเดิมไป แต่ยังยึดพื้นฐานใหญ่เกือบทั้งหมดเอาไว้ แต่ระยะหลังนิกายต่าง ๆ เกิดขึ้นมาก ส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเหมือนประเทศไทยในปัจจุบัน ก็คือ เป็นอาจาริยวาทเสียเยอะ ถือแต่คำสอนของอาจารย์ตนเป็นใหญ่

ถ้าถือคำสอนของอาจารย์ตนเป็นใหญ่ แล้วมีการเปรียบเทียบกับตำรา อย่างเช่นพระไตรปิฎก ก็นับว่าดี แต่ส่วนใหญ่ที่ปรากฏขึ้นก็คือ ถือตามแบบไม่ลืมหูลืมตา สุดยอดก็คืออาจารย์ของข้า คนอื่นไม่ใช่ทั้งนั้น..!

นอกจากจะไม่เปรียบเทียบกับหลักฐานดั้งเดิมที่เป็นพระพุทธวจนะในพระไตรปิฎกแล้ว ยังมีการยกเอาหลักธรรมที่อาจารย์สอนไปข่มกับสำนักอื่นอีกต่างหาก ท้ายสุด..อาจารย์ต่างคนต่างเก่ง ก็กลายเป็นนิกายต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ในปัจจุบัน พวกเราก็กำลังจะสร้างสำนักนิกายใหม่ขึ้นแล้ว

จึงอยากให้หลักการกับทุกคนว่า ในเรื่องของการปฏิบัติ ถ้าเป็นไปได้ ให้อ่านพระไตรปิฎกบ้าง จะได้รู้ว่าคำสอนของครูบาอาจารย์ก็ดี หรือที่อาตมาเอามาแนะนำก็ดี มีผิดเพี้ยนจากพระไตรปิฎกหรือเปล่า ถ้าขี้เกียจอ่านพระไตรปิฎกเพราะเห็นว่ามาก ใช้หนังสือของหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นหลักก็ได้ โดยเฉพาะคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน กับกรรมฐาน ๔๐

ถ้ามีเวลาจะอ่านเยอะหน่อย ก็ดูในปกิณกะธรรม เล่ม ๑ , ๒ และ มหาสติปัฏฐานสูตร เดี๋ยวจะกลายเป็นชอบของยากไปอีก มหาสติปัฏฐานสูตร ถ้าคนไม่มีพื้นฐานการปฏิบัติจริง ๆ เมื่อเลยจากกายในกายไปแล้ว มักจะอ่านไม่เข้าใจกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-11-2010 เมื่อ 08:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา