"ดังนั้น...สิ่งที่เราได้กระทำในที่นี้อย่าทิ้งไปเฉย ๆ ให้พยายามรักษาเอาไว้ให้ต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่เรากระทำไปก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เนื่องจากว่าการปฏิบัติธรรมเหมือนกับการว่ายทวนน้ำ พอถึงเวลาเราปฏิบัติเสร็จก็ปล่อยให้ลอยตามน้ำไป กว่าจะมาสมัครบวชเนกขัมมะปฏิบัติอีกทีหนึ่งก็เป็นเดือน สิ่งที่เราทำได้กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้เหลือแต่กิเลสล้วน ๆ จะตีคืนก็ยาก เมื่อทำคืนยากก็เกิดการท้อถอย หมดความเพียรพยายามเสียอีก
ดังนั้น...ถ้าเราทำได้แล้ว พึงรักษาประคับประคองเอาไว้ให้อยู่กับเราให้นานที่สุด ถ้าหากว่าพลาดพลั้ง จิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก ให้รีบเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ รักษากำลังใจเอาไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเราเองก็จะลำบากมาก เพราะคนที่เคยทำได้ มารย่อมรู้ว่าจะพ้นมือเขาแล้ว เขาก็ต้องขัดขวางเราสุดชีวิต
ส่วนท่านใดสามารถรักษาศีล ๘ เอาไว้ได้ก็ขอให้รักษาต่อไป เพราะเป็นศีลที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติธรรมมาก ถ้าท่านใดรักษาไม่ได้ก็ให้ลดลงไปรักษาศีล ๕ ตามเดิม ไม่ต้องเสียเวลาอาราธนา ไม่ต้องเสียเวลาสมาทานใหม่ ศีลจะเป็นศีลหรือไม่อยู่ที่ตั้งใจปฏิบัติและงดเว้นเท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การอาราธนาหรือว่าอยู่ที่การรับศีล"
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
โอวาทช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม
วันที่ ๑๓ – ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2016 เมื่อ 14:41
|