ดูแบบคำตอบเดียว
  #11  
เก่า 04-12-2014, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,117 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฉะนั้น..เมื่อออกไป อันดับแรกเลยก็คือ จะทำงานทำการที่ไหนก็ตาม ขอไว้ว่าทำให้เหมือนงานนั้นเป็นงานของเราเอง ประการที่สอง ก็คือ จะปฏิบัติธรรมก็ให้รู้กาลเทศะ ถึงเวลาอยากภาวนาจริง ๆ ก็เข้าส้วมสิครับ ไปนั่งสัก ๓๐ นาทีก็ได้ พอเจ้านายด่ามา เราอารมณ์ใจทรงตัวแล้วก็ยิ้มได้ “ขอโทษครับ ท้องผูกไปหน่อย” ไม่ใช่ไปถึง “เมื่อกี้ผมไปนั่งภาวนามาครับ” อย่างนั้นคงได้ทำสัก ๓ วันละงานนั้น..!

คนที่ปฏิบัติธรรม ยิ่งปฏิบัติไปก็ยิ่งมีปัญญา ในเมื่อยิ่งมีปัญญา ก็จะอยู่ในโลกนี้ลักษณะของน้ำที่อยู่บนใบบัวหรือใบบอน กลิ้งไปตรงไหนก็ไม่ได้ติดกับใบบัวหรือบอนหรอกครับ จะเรียกว่ากะล่อนก็ได้ ถ้ามีคนมาถึงก็ “เฮ้ย..หนุ่ย..ยืมตังค์หน่อยสิ” “ไม่มีหรอกพี่ ไม่ได้พกมาเผื่อเลย” ในวงเล็บ (กูไม่ได้เผื่อให้มึงยืม) แต่อย่าไปพูดในวงเล็บให้เขาฟังสิ ไม่เห็นต้องโกหกเลย..ใช่ไหม ?

ผมเป็นทหาร เวลาวิ่ง ๑๒ กิโลเมตร กลับมาถึงครูฝึกก็ถาม “หิวไหม ?” ต้องบอกไม่หิวนะครับ ใครบอกว่าหิวไม่ได้แดกแน่..! “เหนื่อยไหม ?” ต้องบอกว่าไม่เหนื่อย “ร้อนไหม ?” ต้องบอกว่าไม่ร้อนครับ แต่ผมไม่เคยโกหก เพราะผมปฏิบัติธรรมมาหลายปีแล้ว เขาถาม “หิวไหม ?” พอเพื่อนบอก “ไม่” ผมก็ “หิว” เต็มที่เลย เป็นคนตรงไปตรงมามาก “เหนื่อยไหม ?” พอเพื่อนบอก “ไม่” ผมก็ “เหนื่อย” ตะโกนให้ดัง ๆ เลย “ร้อนไหม ?” ร้อนครับ แต่ต้องรอให้เพื่อนบอก “ไม่” ไปก่อน เสือกไปร้อนโด่เด่อยู่คนเดียวก็ตัวใครตัวมัน..!

เห็นหรือยังครับว่าถือศีลปฏิบัติธรรมก็อยู่ในโลกนี้ได้ อยู่แบบน้ำกลิ้งบนใบบอน อยู่แบบคนกะล่อน แต่เราสามารถรักษาศีลและกรรมบถ ๑๐ ของเราได้ ไม่จำเป็นต้องไปละเมิดศีล ที่คุณจดไปแล้วได้อ่านหรือเปล่าวะ ? เรื่องพวกนี้บางทีผมพูดให้คุณฟัง จดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ มีเด็กผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น แม่ส่งมาวัด ผมคุยกับเขาอยู่ ๑ ชั่วโมงเต็ม ๆ แม่ถามว่าหลวงลุงคุยอะไร ? เขาบอกไม่ได้เลย แล้วหลวงลุงสอนไปรู้เรื่องหรือเปล่า ? เขาบอกรู้ อ้าว..เมื่อบอกไม่ได้แล้วรู้ได้อย่างไร ? คือเขาไม่สามารถที่จะบอกเป็นภาษามนุษย์ได้ครับ แต่เขาเข้าใจ ซึมซับเข้าไปอยู่ในใจแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2014 เมื่อ 11:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา