การที่จะเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันนั้น ในพระบาลีท่านว่าต้องตัดอุทธัมภาคิยสังโยชน์ ๓ ข้อ คือ สักกายทิฎฐิ มีความเห็นว่าตัวเราเป็นของเรา วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในคุณพระศรีรัตนตรัย สีลัพพตปรามาส การถือศีลไม่มั่นคง
การที่เราจะถือศีลให้มั่นคงได้ ก็ต้องคอยระมัดระวังรักษาสิกขาบทเหล่านั้นไว้เสมอ ๆ เราจะต้องไม่ล่วงละเมิดศีลทั้งหลายเหล่านั้นด้วยตนเอง ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ
การที่เราจะเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น ต้องพิจารณาเห็นคุณค่าของสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น ประกอบไปด้วยพระปัญญาคุณอันล้ำเลิศ สามารถตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ รู้เห็นธรรมที่คนอื่นไม่สามารถจะรู้เห็นได้ มีพระบริสุทธิคุณอันยอดเยี่ยม สามารถชำระจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลสได้อย่างวิเศษยิ่ง มีพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ ทรงตรากตรำพระวรกายสั่งสอนสัตว์โลกทั้งหลายให้พ้นจากกองทุกข์อยู่ถึง ๔๕ ปีเต็ม ๆ
คุณของพระธรรมนั้น รักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกสู่อบายภูมิ นำพาทุกคนให้ก้าวขึ้นสู่ภพภูมิที่สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป และท้ายสุดก็ล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
พระสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติตามธรรม ปฏิบัติชอบ นำธรรมะไปเผยแพร่ให้แก่ปวงชนทั้งหลายได้ศึกษาปฏิบัติ เพื่อได้ล่วงพ้นจากกองทุกข์ตามไปด้วย
พยายามพิจารณาให้ละเอียด เราจะเห็นคุณของพระรัตนตรัยได้ชัดเจน เกิดความเคารพเลื่อมใส แล้วไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2015 เมื่อ 02:25
|