ดูแบบคำตอบเดียว
  #39  
เก่า 10-04-2011, 00:11
ยอดดวงใจ's Avatar
ยอดดวงใจ ยอดดวงใจ is offline
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัคร: Apr 2011
ข้อความ: 1
ได้ให้อนุโมทนา: 23
ได้รับอนุโมทนา 182 ครั้ง ใน 3 โพสต์
ยอดดวงใจ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปราโมทย์ อ่านข้อความ
สวัสดีครับทุกท่าน
ผมขออนุญาต เล่าสู่กันฟังบ้างเกี่ยวกับการใช้พระคาถา บางพระคาถา ตอนแรกว่าจะไม่เล่า เพราะกลัวผลที่ได้จะหาย แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วครับ
เกี่ยวกับพระคาถาท่านปู่พระอินทร์ครับ ว่าดังนี้
"สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสธายิ อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู"
ถ้าท่านใดอ่านจากหนังสือของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีมาจะเห็นว่า ไม่มีส่วน "อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู"
ส่วนหลังนี้ผมใช้ตามพระอาจารย์ครับ
ผลที่ได้ก็พอมีบ้างครับ
คือว่า เมื่อก่อนนั้น ผมเป็นคนเรียนไม่ค่อยเก่งนัก โดยเฉพาะวิชาด้านคำนวณ เช่นตอนมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ขี้เกียจนัก ทำการบ้านไม่ได้ ไม่ได้ทำบ้าง จะโดนทำโทษเสียยับ โดนตีก้น ๒๐ ที มากที่สุดเท่าที่เคยโดนมา เรียนก็ไม่ได้ดี จบมัธยมต้นได้ผลการเรียนเฉลี่ยมา ๒.๗๕ ช่วงนี้เริ่มได้รู้จักพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษี จากหนังสืออ่านเล่นครับ
เข้าสู่มัธยมปลายก็เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต ชอบเรียนครับ แต่ว่าไม่ค่อยได้ดี ก็เรียนไปตามประสาคนปัญญาทราม ช่วงนี้คุณงามความดีของท่านมีมาก แต่ผมตาบอด มองเห็นแต่ไม่นำมาใช้ ใช้ก็ไม่เต็มที่นัก ก็พระคาถาทั้งหลายนั่นแหละครับ แต่ว่ารู้จักแล้ว
เรียนไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จบมัธยมปลายได้ผลการเรียนเฉลี่ยมา ๒.๙๐ เป็นอย่างไรบ้างครับ ไม่ถึง ๓ เลยใช่ไหมครับ
หลังจากนั้นก็ช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผมยังเป็นพวกสอบเอ็นฯแบบเดิมอยู่ครับ ได้คะแนนก็พอประมาณ
แต่สิ่งที่เหลือเชื่อคือ สามารถเข้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ อย่างไม่น่าเชื่อที่สุด ในคณะวิทยาศาสตร์ สาขาธรณีวิทยา
ตอนนั้นผมเป็น hall of fame ของโรงเรียนเลยครับ โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนประจำอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีครับ ชื่อ "โรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง" ครับ ที่นี่ไม่เคยมีใครสอบเข้า จุฬาฯ ได้มาหลายปีแล้วครับ
ท่านผู้อ่านลองนึกดูครับ ใครต่อใครจะคิดว่าว่าไอ้คนน้ำหน้าอย่างผมหรือครับ จะเข้าได้ แต่ผมคือหนึ่งในสองคนของโรงเรียนที่สอบเข้าได้ อีกคนคือคนที่เรียนได้ ๑ ใน ๒ หรือ ๓ ของโรงเรียนครับ ต่างจากผมมาก ใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เพื่อน ทุกคนต่างแปลกประหลาดใจว่าเข้าไปได้อย่างไร ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ก็คาดว่ามีท่านผู้เมตตาครับ
หลังจากนั้นได้เข้ามาเรียน ก็ได้ทราบถึงความโหด เข้ม ในการเรียน ดูใจดี แต่โหดน่าดู การเรียนที่เรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นหรอกครับ แต่สังเกตได้ว่าในช่วงการสอบนั้น แม้แต่พวกที่เอาแต่เล่น ก็ยังหันมาอ่านหนังสือกันหมด จนบรรยากาศนั้นดูแปลกไปทีเดียว ส่วนลักษณะการเรียนของผมนั้น มันไม่ค่อยรู้จักจำ รู้จักพัฒนาครับ คิดว่าน่าจะเรียนเหมือนตอนมัธยมฯ ซึ่งต้องบอกว่าสมน้ำหน้าตัวเอง ผลที่ได้รับโดน รีไทร์ครับ
ผมก็เลยหยุดเรียนไปหนึ่งปี เพราะคิดว่าจะไม่เรียนแล้ว ทำงานดีกว่า อันที่จริงผมก็จะเรียนนั่นแหละครับ แต่กว่าจะรู้ว่าสมัครวันไหนก็วันสุดท้ายของการสมัครแล้วครับ หลักฐานใดๆ ก็ไม่ได้เตรียม ผมก็เลยหยุดว่างไปเกือบปี เพื่อนผู้กรุณา ก็มาตามให้ไปสอบใหม่เรียนด้วยกัน ผมก็เอา ไปก็ไป ตอนแรกกะว่าจะเปิดร้านคอมพิวเตอร์ ร้านเกมส์ครับ
ก็ไม่ได้ทบทวนอะไรมา ๑ ปีเต็ม ๆ หวังน้อย พยายามสอบ ผลที่ได้ ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์ หลักสูตรธรณีศาสตร์ได้ครับ ผมก็แปลกใจ ว่าเข้ามาได้อย่างไร
ตอนนี้แหละครับเกิดความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเรียนวิชาอะไร รู้สึกเข้าใจทุกอย่าง เหมือนกับว่าเรียนมาแล้ว เข้าใจแล้ว ก็เรียนได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงเรียนปี ๒ ได้เฉลี่ยเกือบ ๔.๐๐ บางวิชาเรียนมาเกือบครึ่งเทอมไม่เข้าใจเลย แต่พอคืนเดียวเท่านั้น ยืนยันว่าคืนเดียว จากไม่สามารถทำได้เลย กลับสามารถทำได้ทั้งหมด และเพียงแค่อาจารย์สอนก็เข้าใจ สามารถทำการบ้าน ทำการทดสอบในห้องเรียน จนบางครั้งทำได้ขนาด ทำได้อยู่คนเดียวของทั้งชั้นเรียน อย่าว่าแต่การทดสอบเลย ขนาดอาจารย์เอาข้อสอบนักศึกษาแพทย์มาให้ก็ทำได้เช่นกัน อย่างในการสอบก็มีผล เช่นบางวิชาให้เวลาทำ ๓ ชั่วโมง แต่ใช้เวลาเพียงแค่ ๓๐ นาทีเสร็จ พร้อมกับคะแนนอันดับสอง ครั้งที่สองเหมือนกัน แต่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งด้วยเวลาการทำน้อยมาก ผมสังเกตว่าทุกอย่างเปลี่ยนจากคนที่ไม่เก่ง แต่กลับเก่งขึ้นมาอย่างคนละเรื่อง ผมไม่เคยคิดหรอกครับว่าตนเองเก่ง ที่ได้มาทุกอย่างเพราะพระท่านเมตตา เทวดาท่านเมตตา เพราะสังเกตว่าช่วงนี้ใช้พระคาถาด้วย นั่งสมาธิด้วยมากขึ้น ใช้ตามที่พระอาจารย์ท่านแนะนำครับ คือ ภาวนาวันละอย่างน้อย ๕ นาที เช้า-เย็น ผมบอกเลยครับว่านี่ขนาดทำประจำ แต่ไม่ค่อยขยันนัก ยังได้ผลขนาดนี้เลยครับ เรียนจบปริญญาตรีมาได้เกียรตินิยม อันดับสองครับ เกือบอันดับหนึ่ง เพราะว่าได้ผลเฉลี่ย ๓.๔๙
อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่ได้เรียนโดยใช้ทุนตัวเองนะครับ แต่ว่าได้ทุนเรียนครับ ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย จากสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยครับ
และก็ส่งผลให้ได้สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ในชีวิตนี้ครับ คือทุกวันนี้ผมเรียนปริญญาโท หลักสูตรนานาชาติ การสำรวจทางธรณีและวิศวกรรมปิโตรเลียม จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (ait) ด้วยทุนพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ( his majesty of thailand scholarship ) หรือที่เรียกกันในหมู่นักศึกษาว่า "ทุนคิงส์"ครับ นี่แหละครับผลและพระเมตตาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ พระอาจารย์เล็ก และที่ขาดเสียไม่ได้ ท่านปู่พระอินทร์ครับ
ขอผลบุญที่ได้จากบทความนี้ทั้งหมด ข้าพเจ้าขอน้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ พระอาจารย์เล็ก ท่านปู่พระอินทร์ บุพการี ผู้มีพระคุณ และครูบาอาจารย์ทุกท่าน
ที่จริงยังมีเรื่องของพระคาถาเงินล้านอีก แต่ผมคิดว่าส่วนนี้ยาวไปแล้ว ไว้โอกาสหน้านะครับ
* ปล. ตอนนี้ที่เล่าได้เพราะว่าเรียนได้ย่ำแย่มากครับ ตกต่ำมาก แต่ไม่เสียใจหรอกครับ ได้อยู่เรียน ก็เรียน ไม่ได้อยู่ก็ออกมาทำงาน ถือซะว่ายังไม่ควรเรียนช่วงนี้ ธรรมจัดสรร แหละครับ แต่ว่าบังเอิญครับ เมื่อต้นเดือนไปบ้านอนุสาวรีย์ พระอาจารย์ท่านแนะนำน้องคนหนึ่งที่กำลังเข้ามหาวิทยาลัยว่าให้ใช้พระคาถาวันละหนึ่งชั่วโมงครับ ผมก็เลยสงสัยว่าที่ทำมาน้อยไป เพราะว่าเรียนสูงขึ้น ก็ต้องเอาให้มากขึ้น แต่ก็นะครับ ตั้งชั่วโมง ตอนนี้กำลังขยันท่องพระคาถาเงินล้านอยู่ ก็ต้องลด ต้องเพิ่ม ตามความเหมาะสมครับ
บอกไว้ก่อนว่า ทุกวันนี้ก็ยัง ไม่เก่ง ไม่รวย เหมือนเดิมครับ ต้องขยัน ๆ ครับ

ที่คุณปราโมทย์ เล่ามาว่า" พระอาจารย์ท่านแนะนำครับ คือ ภาวนาวันละอย่างน้อย ๕ นาที เช้า-เย็น"
นี่หมายความว่าอย่างไร? หรือให้ท่อง คาถาพระอินทร์ ๕ นาทีหรือคะ ...แนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ยอดดวงใจ : 10-04-2011 เมื่อ 15:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ยอดดวงใจ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา