๒. สังโยชน์ ๓ ข้อแรก ทรงเน้นเรื่องศีลเป็นสำคัญ คือ สีลัพพตปรามาส (สีลัพพตปรามาส ซึ่งแปลเอาความหมายทางธรรมว่า รักษาศีลให้บริสุทธิ์ จนเป็นอธิศีล)
๓. "มีเหตุจึงจักมีผล" พิจารณาได้หลายระดับ หลายวิธีตามบารมีธรรมของแต่ละคน ซึ่งไม่เสมอกัน เช่น
- ๓.๑ ศีลเป็นรากฐาน หรือเป็นพื้นฐานของพระธรรม ผู้ใดไม่มีศีลอยู่กับจิต จิตผู้นั้นก็ไม่สามารถจะรองรับพระธรรมในพระพุทธศาสนา ได้ตามความเป็นจริง
- ๓.๒ ศีลบริสุทธิ์เป็นเหตุ จึงมีผลทำให้จิตบริสุทธิ์ หรืออธิศีลเป็นเหตุ มีผลให้เกิดอธิจิต อธิจิตเป็นเหตุ มีผลให้เกิดอธิปัญญาตามลำดับ หรือศีลบริสุทธิ์เพียงใด จิตก็บริสุทธิ์เพียงนั้น จิตบริสุทธิ์เพียงใดก็เกิดปัญญาในการตัดกิเลสได้มากเพียงนั้น ศีล สมาธิ ปัญญา จึงเป็นธรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน แยกกันไม่ได้ในการปฏิบัติ จำเป็นต้องปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน ตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาในพระพุทธศาสนา จนกระทั่งจบกิจ จิตดวงนั้นก็มีอัตโนมัติอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ตลอดเวลา เป็นอกาลิโก ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมาจากอริยมรรค ๘ ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติเพื่อตัดกิเลสให้ขาดหรือตายได้อย่างถาวร เป็นข้อปฏิบัติในอริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นตัวปัญญาสูงสุดในพระพุทธศาสนา และมีแต่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ศาสนาอื่น ๆ ไม่มี