ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-06-2012, 21:37
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,483 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

คราวนี้ก็ "เอ้อ...เจ้าใหญ่กว่าท้าวมหาราชก็จริง แต่ก็คงไม่ใหญ่ไปกว่าพระพรหมหรอก" ก็ไปสวดมนต์ของแกต่อ พอยามสอง พระอินทร์มาเยี่ยม แสงก็สว่างไปถึงห้องแกอีก ก็ถามว่า "จุนท์เอ๊ย..ใครมาเยี่ยมพี่แกอีก ?" ท่านจุนทะก็บอกว่า "พระอินทร์น่ะแม่" แกก็รีบออกมาดูและถามว่า "นี่พ่อยังใหญ่กว่าพระอินทร์อีกหรือ ?" พระสารีบุตรท่านก็บอกว่า "พระอินทร์ก็เปรียบเสมือนสามเณรน้อยที่คอยถือบาตรถือจีวรของพระพุทธเจ้า" เพราะตอนพระพุทธเจ้าท่านเสด็จลงจากดาวดึงส์ พระอินทร์ท่านก็ถือบาตรตามพระพุทธเจ้าลงมา ท่านก็ "เออ... แต่คงไม่ใหญ่ไปกว่าพระพรหมหรอก" แกก็ไปสวดมนต์ของแกต่อ

พอยามสามท้าวสหัมสบดีพรหมมาเอง เจ้าพ่อของพระพรหมเลย ท่านก็เลยถามอีกว่า "ใครมาหาพี่แกน่ะลูก ?" ท่านจุนทะก็บอกว่า "ท้าวสหัมสบดีพรหมผู้เป็นอธิบดีของพรหมทั้งหลายน่ะแม่" คราวนี้แม่อยู่ไม่ได้ ตัวเองนับถือพระพรหมเป็นใหญ่ แต่ท้าวสหัมสบดีพรหมอธิบดีของพรหมทั้งหมดมาเองอย่างนี้ เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ถาม "พ่อเอ๊ย...นี่พ่อยังใหญ่กว่าท้าวสหัมสบดีพรหมอีกหรือลูก ?" พระสารีบุตรท่านก็บอกว่า ถ้าหากว่าท้าวมหาพรหมทั่ว ๆ ไป เปรียบแล้วก็เหมือนกับพี่เลี้ยงเด็ก เพราะว่าตอนพระพุทธเจ้าคลอดใหม่ ๆ ท้าวมหาพรหมทั้งสี่เอาข่ายทองมารองรับ แต่ถ้าท้าวสหัมสบดีพรหมก็เปรียบเสมือนมัคคนายกวัด เพราะว่าเป็นผู้อาราธนาพระพุทธเจ้าให้อยู่แสดงธรรมโปรดสัตว์โลกเสียก่อน

ตอนที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ใหม่ ๆ ท่านคิดว่าจะไม่แสดงธรรมสงเคราะห์ เพราะว่าธรรมะลึกซึ้งเกินไป ท้าวสหัมสบดีพรหม ท่านทราบความคิด ท่านก็เสด็จลงมา ท่านว่าสัตว์โลกที่ธุลีในดวงตามีน้อยนั้นมีอยู่ ขอพระองค์โปรดแสดงธรรมสงเคราะห์เขาเถิด เมื่อเป็นอย่างนั้น ท่านก็เลยรับแสดงธรรม ท่านสารีบุตรก็เลยเปรียบว่า ท้าวสหัมสบดีพรหม ก็เหมือนมัคคนายกนั่นและ เพราะถึงเวลาก็ต้องอาราธนาศีลอาราธนาธรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2012 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา